เตรียมระเบิดความมันส์กันอีกครั้ง สำหรับการแข่งขันศึกสองล้อรายการใหญ่ที่สุดของโลก โมโตจีพี สนามประเทศไทย ภายใต้ชื่อ“โออาร์ ไทยแลนด์ กรังปรีซ์ 2023 OR THAILAND GRAND PRIX 2023” ซึ่งถือเป็นปีที่ 4 แล้วที่ไทยเป็นเจ้าภาพ โดยงานปีนี้จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27– 29 ตุลาคม 2566 สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
สำหรับไฮไลต์ของการแข่งขันในปีนี้ มีการปรับปรุงสนามที่ได้รับการรับรอง จากสหพันธ์รถจักรยานยนต์นานาชาติ (FIM) และมีไรเดอร์ สแตนด์ สำหรับเชียร์นักแข่ง ได้แก่ มาร์ค มาร์เกซ, ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร, สแตนด์ ของนักแข่งไทย ก้อง-สมเกียรติ จันทรา และพิเศษปีนี้มีนักแข่งไทย"ไอเดีย" กฤตภัทร เขื่อนคํา จากทีม Yamaha Thailand Racing Team ได้สิทธิ์ไวด์การ์ด ลงแข่งขันในรุ่น Moto3 เพิ่มขึ้นมาด้วย
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า โมโตจีพี สนามประเทศไทย หรือ ThaiGP ในปีนี้จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าปีก่อน ที่ทำได้ 4,048 ล้านบาท ทั้งนี้เพราะไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19
ด้านนายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ กล่าวว่า ในฐานะ Title Sponsor พร้อมขับเคลื่อนมหกรรมกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกให้เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทย และสนับสนุนนักแข่งไทยก้าวสู่เวทีระดับโลก ผลักดันมอเตอร์สปอร์ตไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม
สำหรับไฮไลต์ของโออาร์ในปีนี้ จัดเต็มทั้งพาวิลเลียนขนาดใหญ่ บูธจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เช่น น้ำมันหล่อลื่น PTT Lubricants, EV Station PluZ, FIT Auto รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมทั้งร่วมสนุกลุ้นรับของรางวัลสุด Exclusive จาก Blue Card /ของที่ระลึกสุดพิเศษ MotoGP Limited Edition
นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต กล่าวว่า ปีนี้ถือว่าคุ้มค่า เพราะเทียบได้กับการดูการแข่งขันได้ถึง 2 วัน เพราะวันเสาร์มี Sprint Race ให้ชมเพิ่มอีกวัน รวมทั้งการได้รับเลือกเป็นสนามที่ 17 ถือเป็นช่วงที่ดี เข้าสู่โค้งสุดท้ายที่สนุก เข้มข้น มีโอกาสลุ้นแชมป์ประจำปีที่ประเทศไทย
ส่วนกิจกรรมความบันเทิงภายในงานมีทั้ง คอนเสิร์ต มวยไทย กิจกรรมตามบูธของผู้สนับสนุนต่างๆสำหรับประชาชนที่สนใจสามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันได้ โดยมีให้เลือก