อัปเดตโครงการลงทุนบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจีน สานฝันดันไทยเป็นฮับผลิตรถ EV

13 ก.ค. 2566 | 00:10 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ก.ค. 2566 | 07:43 น.
1.6 k

ถ้าจะกล่าวว่าไทยกำลังเนื้อหอม ดึงดูดบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนให้เข้ามาลงทุนก็คงไม่ผิดนัก เพราะขณะนี้หลายบริษัทเข้ามาลงทุนแล้วหรือกำลังมีแผนเข้ามาลงทุนและทำตลาดอย่างจริงจัง มีรายไหนบ้างเราตามมาดูกัน

 

บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของจีน นับเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์การพัฒนา อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต ของไทย โดยโครงการใหญ่ที่เป็นโครงการปลุกกระแสการลงทุนของ บริษัทรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี) ของจีนในไทยนั้น เริ่มด้วยการเข้ามาของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor)ที่เข้ามาซื้อโรงงานของเจเนอรัล มอเตอร์ (General Motors) หรือ GM ในไทยเมื่อปีพ.ศ. 2563 และมีแผนลงทุน 22,600 ล้านบาท เพื่อปรับโรงงานเป็นศูนย์ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและรถไฮบริดของภูมิภาค

ทั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ หรือ GWM จะเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Ora Good Cat ในปีหน้า(2567) และจะนำบริษัทในเครืออย่าง MIND Electronics, HYCET และ Nobo Auto ที่เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า ระบบส่งกำลังรถยนต์ และเบาะที่นั่ง เข้ามาในไทยด้วย

โรงงานของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่จังหวัดระยอง

ในเวลาไล่เลี่ยกัน บริษัทสัญชาติจีนที่เป็นคู่แข่งอย่างเครือ SAIC Motor (ที่มีชื่อเต็มว่า Shanghai Automotive Industry Corporation) รัฐวิสาหกิจจากจีน เจ้าของบริษัทผลิตรถยนต์ MG Motor และเป็นหุ้นส่วนกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในไทยไปเมื่อปี 2562 โดยทางบริษัทเผยเมื่อเดือนเม.ย.2566ว่า กำลังลงทุน 500 ล้านบาทเพื่อขยายโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่รถยนต์ในประเทศไทย

รถยนต์อีวีของบริษัท SAIC Motor

ขณะเดียวกัน บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่อีกรายอย่าง บีวายดี (BYD) ได้ลงทุน 17,900 ล้านบาทเพื่อตั้งโรงงานแห่งใหม่ในไทย โดยในปีหน้า(2567) BYD จะเริ่มผลิตรถยนต์ 150,000 คันต่อปี และจะส่งออกรถยนต์บางส่วนไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรป

ทางด้าน บริษัท Hozon New Energy Automobile จากมณฑลเจ้อเจียง กำลังร่วมมือกับบริษัทบางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี (Bangchan General Assembly) ของไทย ในโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น NETA V ภายในปีหน้าเช่นกัน

โครงการลงทุนของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีน

ยังมีอีกหลายรายจ่อคิวเข้าไทย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ระบุว่าโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนในไทยที่กำลังจะเกิดขึ้นยังมีอีกหลายโครงการ เช่น

  • บริษัท Chongqing Changan Automobile ของทางการจีน ที่เป็นหุ้นส่วนกับบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่อย่างฟอร์ด (Ford) และมาสดา (Mazda) มีแผนเตรียมลงทุน 9,800 ล้านบาท เพื่อตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยซ้ายแห่งแรกนอกประเทศจีน
  • บีโอไอยังกล่าวด้วยว่า บริษัท GAC Aion ที่เป็นบริษัทลูกของบริษัทผลิตรถยนต์ Guangzhou Automobile Group กำลังวางแผนลงทุนกว่า 6,400 ล้านบาทเพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเช่นกัน
  • ขณะที่บริษัท Chery Automobile ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนอีกราย ก็แสดงความสนใจลงทุนในไทย และวางแผนเจาะตลาดไทยภายในต้นปีหน้า (2567)
  • นอกจากนี้ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รอยเตอร์ยังรายงานด้วยว่า บริษัทผลิตรถสัญชาติจีนอีกค่าย ได้แก่  Geely มีแผนเบื้องต้นในการเข้าสู่ตลาดไทย รวมทั้งการเลือกรุ่นรถยนต์เพื่อนำเข้า และวางแผนผลิตรถยนต์ในท้องถิ่นด้วย

ทั้งนี้ สามผู้ผลิต ได้แก่ Chongqing Changan Automobile, GAC Aion และ Chery Automobile ไม่ได้ตอบคำถามของรอยเตอร์ต่อประเด็นรายละเอียดแผนการลงทุนในไทย

ความนิยมรถยนต์ EV เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รอยเตอร์วิเคราะห์ว่า รถยนต์ไฟฟ้าของจีนที่เข้าสู่ตลาดไทยหลายรุ่น อาจจะช่วยเพิ่มความนิยมรถยนต์ไฟฟ้าในไทย โดยปัจจุบัน ไทยเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ข้อมูลของบีโอเอระบุว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 นี้ มีรถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนในไทยกว่า 31,000 คัน ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนในปีที่ผ่านมา (2565) กว่าสามเท่า นอกจากนี้ ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ระบบสันดาปยังมีราคาต่างกันน้อยลงด้วย โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะเงินอุดหนุนจากรัฐบาลไทยนั่นเอง

NETA V ของบริษัท Hozon New Energy Automobile มีราคาที่ประมาณ 549,000 บาท ใกล้เคียงราคารถ Yaris Ativ

ทั้งนี้ รถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Ora Good Cat ของบริษัท Great Wall Motor เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในไทยเมื่อปี2565 โดยรุ่นราคาถูกที่สุดของรถดังกล่าว มีราคาอยู่ที่ราว 828,500 บาท ขณะที่รถ EV รุ่น NETA V ของบริษัท Hozon New Energy Automobile มีราคาที่ประมาณ 549,000 บาท อ้างอิงจากเว็บไซต์ของทั้งสองบริษัท

หากเทียบกับราคารถยนต์ระบบสันดาปแล้วนับว่าราคารถยนต์ EV ดังกล่าวข้างต้นใกล้เคียงและแข่งได้กับรถระบบสันดาปรุ่นยอดนิยมของบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น อาทิ โตโยต้า (Toyota) รุ่น Corolla Altis มีราคาอยู่ที่ 894,000 บาท ขณะที่รถยนต์รุ่น Yaris Ativ มีราคาอยู่ที่ 549,000 บาท เป็นต้น

ข้อมูลอ้างอิง