อุตสาหกรรมหนึ่งที่น่าจับตาในขณะนี้ เพราะสามารถเติบโตได้ดีท่ามกลางปัญหาที่รุมเร้าจากการหยุดชะงักของระบบซัพพลายเซน คือ “รถยนต์ไฟฟ้า EV” จากข้อมูลพบว่าในปี 2050 อาจจะมียอดใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มากกว่า 50% ของจำนวนรถยนต์ใช้งานทั่วโลกและหากนึกถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทุกคนย่อมต้องนึกถึง Tesla เป็นลำดับแรก
นาทีนี้คงหนีไม่พ้น Tesla ผู้นำด้านนวัตกรรมรถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก ภายใต้การก่อตั้งและการบริหารของ “Elon Musk” ที่ล่าสุดได้ เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย
Tesla ได้ปล่อยภาพโฆษณาครั้งแรกในประเทศไทยด้วยข้อคามว่า “Hello Thailand สวัสดีประเทศไทย December 2022” พร้อมการเปิดตัว Line Official Tesla Thailand (@TeslaTH) ซึ่งปัจจุบันมีผู้กดติดตามแล้วมากกว่า 1 หมื่นราย
โดยมีการเปิดเผยราคามาแล้ว เริ่มต้นเปิดฉากด้วย Tesla Model 3 และ Model Y โดย Model 3 ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,759,000 บาท ด้าน Model Y ราคาเริ่มต้นที่ 1,959,000 บาท
Tesla ผู้นำนวัตกรรมรถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก
ก่อตั้งบริษัทมาเพียง 18 ปี ตั้งปี 2003 ภายใต้การก่อตั้งและการบริหารของ “Elon Musk”
เกิดจากแนวคิดของ Nikola Tesla นิโคลา เทสลา นักประดิษฐ์ผู้พัฒนาระบบไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งได้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่อีลอน ทำให้เขาได้ก่อตั้งบริษัทที่มีชื่อว่าTesla ซึ่งเป็นการให้เกียรติแก่ผู้คิดค้น
ได้ผลิตเกี่ยวกับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน แทนการใช้พลังงานน้ำมันเชื้อเพลิง
หัวใจสำคัญของ Tesla
การประดิษฐ์และคิดค้นเทคโนโลยี ด้วยการเป็นบริษัทเน้นด้านการพัฒนาเทคโนโลยี พร้อมกับการจดสิทธิบัตรทางการประดิษฐ์มากมายหลายรายการทั้ง ระบบขับเคลื่อน มอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เทคโนโลยีคือจุดที่โดดเด่น โดยเฉพาะระบบ Autopilot หรือระบบช่วยขับ ที่ประมวลผลวิเคราะห์สภาพแวดล้อมการขับขี่ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์และระบบต่างๆ อย่างกล้องผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
โมเดลของเทสลา
โมเดลแรกได้ถูกเปิดตัวเมื่อปี 2008
ปัจจุบันมีรถทั้งหมด 5 โมเดล ได้แก่ Roadster, Tesla model 3, Tesla model X, Tesla model S และ Tesla model Y
ฉีกกฎการขายรถยนต์รูปแบบเดิมที่มักจะขายผ่าน Franchised Dealer เป็นการขายตรง Direct Sales ผ่านศูนย์จัดจำหน่ายของบริษัท (ปัจจุบันมี 438 สาขาทั่วโลก) ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถรับทราบ Feedback จากลูกค้าโดยตรง
บริษัทมีสถานีชาร์ตไฟ (Supercharger Stations) เพื่อให้บริการลูกค้า และหาแนวทางพัฒนาระบบการชาร์ตไฟในอนาคต
ธุรกิจเสริมความแข็งแกร่งของเทสลา
ธุรกิจ Solar Energy
ธุรกิจ Energy Storage
ธุรกิจแบตเตอรี่ ธุรกิจหุ่นยนต์ (Humanoid Robot) ที่มีชื่อเรียกว่า “Tesla Bot” เข้ามาช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะในงานที่ต้องเจอความเสี่ยงสูง
ธุรกิจแท็กซี่ไร้คนขับอย่าง Robotaxis ที่อยู่ในแผนการพัฒนาของบริษัท
ไทม์ไลน์ลงุทนในไทยของเทสลา
เทสลา ที่ได้มีการจดทะเบียนบริษัทต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ภายใต้ชื่อ บริษัท เทสลา (ประเทศไทย) มีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 3 ล้านบาท จดทะเบียนวันที่ 25 เมษายน 2565 บริษัทดังกล่าวจดทะเบียนในประเภทธุรกิจ การขายยานยนต์ใหม่ชนิดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลรถกระบะรถตู้ และรถขนาดเล็กที่คล้ายกัน เพื่อประกอบกิจการขายรถยนต์ไฟฟ้า ระบบเก็บพลังงานแบบติดตั้งและอุปกรณ์ที่ใช้กับระบบเก็บพลังงานแบบติดตั้ง ระบบผลิตพลังงานและอุปกรณ์ที่ใช้กับระบบพลังงาน โดยมีที่ตั้งของบริษัทดังกล่าวตั้งอยู่ที่ เลขที่ 87 อาคารเอ็มไทย ทาวเวอร์ ออล ซีซั่นส์ เพลส ห้องเลขที่ 2319 ชั้นที่ 23 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
พฤศจิกายน 2565 มีกระแสข่าวของ บริษัท เทสลา (ประเทศไทย) ได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 253 ล้านบาท พร้อมมีแผนการเปิดตัวสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ Supercharger ในประเทศไทย ในหมวดธุรกิจการขายยานยนต์ใหม่ชนิดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะรถตู้ และรถขนาดเล็กที่คล้ายกัน ที่ตั้งอยู่ที่เลขที่ 87 อาคารเอ็มไทยทาวเวอร์ ออล ซีซั่นเพลส ห้องเลขที่ 2319 ชั้น 23 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
พัฒนาการงบแสดงฐานะทางการเงิน ของ Tesla
ปัจจุบันเทสลา มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ USD 567,827 Million (อ้างอิงจากราคาปิดของหุ้นเมื่อวันที่ 06/12/2022 ) ยังมีมูลค่าตลาดเป็นเบอร์หนึ่งในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า แซงหน้าแชมป์เก่าอย่างโตโยต้า
จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ประเทศสหรัฐฯ ซึ่งใช้ Ticker Code ในการซื้อขายว่า “TSLA US” โดยนักลงทุนต้องแลกเงินเป็นสกุล USD เพื่อทำการซื้อขาย โดยมีขั้นต่ำในการซื้อขายเป็นจำนวน 1 หุ้น (Trade Lot = 1)
อ้างอิงข้อมูล : KS Global Invest, CFRA Research, Bloomberg