ประกาศอย่างเป็นทางการ Haval H6 เปิดราคา 1.149 ล้านบาท

28 มิ.ย. 2564 | 19:40 น.
12.2 k

วันนี้ (28 มิ.ย.) เกรท วอลล์ มอเตอร์ จัดงานเปิดตัวพร้อมประกาศราคาขาย Haval H6 Hybrid อย่างเป็นทางการ โดยรุ่นท็อป Ultra ราคา 1.249 ล้านบาท และรุ่น Pro ราคา 1.149 ล้านบาท

Haval H6 ราคา 1.249 ล้านบาทในตัวท็อป Ultra และราคา 1.149 ในรุ่นเริ่มต้น Pro มากับขุมพลังไฮบริดเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมือง ถือเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเดิมผลิตและทำตลาดในไทย จากแผนเปิดตัวรถยนต์ 9 รุ่นภายใน 3 ปี นับจากนี้

การเปิดราคาวันนี้ HAVAL H6 Hybrid ยังนำเสนอโปรโมชั่น Premiere Deal รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% นาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี และแพ็กเกจบำรุงรักษา GWM PRO Service Inclusive (GPSI) 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท(ได้น้อยกว่าช่วงพรีบุกกิ้ง) 

Haval H6 Hybrid ไฮบริดใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 243แรงม้า แรงบิดสูงสุด 530 นิวตัน-เมตร ขณะเดียวกันยังโดดเด่นด้วยตัวถังขนาดใหญ่ และฟังก์ชันความปลอดภัยล้ำสมัย ดังนี้

Haval H6 Hybrid

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS ที่ประสานกับชิปควบคุมการขับเคลื่อนอัตโนมัติ EYEQ4 ของโมบายอาย ช่วยควบคุมในช่วงความเร็วเต็มพิกัดที่กำหนดไว้ รวมถึงการหยุดและรีสตาร์ทกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (ICA) ทำงานตามความเร็วที่ผู้ขับขี่ตั้งเอาไว้ แต่จะตรวจจับรถคันหน้าเพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัย
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) เป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อใช้ความเร็วต่ำ
  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ถือเป็นหนึ่งในระบบที่ดีทีสุดในระดับ 2+ (L2+) ที่มาพร้อมระบบการตรวจจับคนเดินถนน และทางแยก โดยสามารถคำนวณระยะทางระหว่างรถและคนเดินถนนได้แบบเรียลไทม์ มีสัญญาณเตือนด้วยเสียงและการเบรกอัตโนมัติช่วยหลีกเลี่ยงการชนหรือลดแรงกระแทก และยังมีการเตือนการชนด้านหน้าและด้านหลัง โดยใช้เรดาร์ด้านหน้าและหลัง เพื่อพิจารณาระยะทาง ทิศทาง และความเร็วสัมพัทธ์ของรถคันอื่น
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ช่วยควบคุมพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) แจ้งเตือนเมื่อรถกำลังออกนอกเลน
  • ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ช่วยควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางเลน
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) โดยหากมีการตรวจสอบพบรถอีกคันกำลังแล่นมา หรือมีรถแซงขึ้นมาจากอีกเลนหนึ่ง ระบบจะทำการแทรกแซงการทำงานมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการชน
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD) โดยการใช้ใช้เรดาร์ตรวจสอบรถในเลนที่ติดกันโดยหากมีหากอยู่ใกล้มากจนเสี่ยงที่จะเกิดการชนเนื่องจากจุดอับสายตาตามธรรมชาติ ระบบจะมีไฟเตือนเพื่อแสดงที่กระจกด้านนอกในด้านที่เหมาะสม
  • ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) โดยระบบจะตรวจสอบรถบรรทุกขนาดใหญ่หรือรถที่มีขนาดยาว โดยในระหว่างการแซง ระบบจะรักษาช่องว่างระหว่างรถตามระยะที่เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และจะหมุนรถให้กลับสู่เลนเดิมอัตโนมัติ
  • การเข้าโค้งอัจฉริยะ เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ทำงาน กล้องจะทำการตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติหากจำเป็นต้องลดความเร็วในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย และเมื่อผ่านโค้งไปแล้ว รถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้
  • ระบบตรวจจับและตีความหมายป้ายจราจร(TSR) กล้องจะทำงานร่วมกับชิปประมวลผลภาพโดยสามารถวิเคราะห์ป้ายจราจรเช่น ป้ายจำกัดความเร็ว และจะมีสัญญาณเตือนด้วยเสียงและภาพแสดงบนหน้าจอเพื่อเตือนผู้ขับขี่หากขับเกินความเร็วที่กำหนด
  • กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ประกอบไปด้วยกล้องที่มองได้รอบ 4 ตัว มีความละเอียดคมชัด 4 Megapixel โดยระบบจะรวมเอามุมมองภาพทั้ง 4 กล้องมาสร้างภาพที่มีมุมมอง 360 องศา เพื่อแสดงให้เห็นมุมมองของรถในแบบ “เฮลิคอปเตอร์” และเปิดการทำงานอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่โหมดการถอยหลัง โดยสามารถดูได้เมื่อขับรถที่ความเร็ว 15 หรือ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและตอนสตาร์ทรถ
  • ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IAP) ใช้เซนเซอร์และกล้องในการตรวจสอบเพื่อตรวจจับวัตถุและเครื่องหมายบริเวณช่องจอดหรือจุดจอดรถและช่วยทำงานเต็มรูปแบบเพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตั้ง แนวนอน หรือแนวเฉียง โดยเมื่อระบุช่องว่างที่จะนำรถเข้าจอดแล้ว รถจะทำการจอดด้วยตัวเองด้วยการควบคุมพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอัยสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) เซนเซอร์ช่วยตรวจสอบจุดอับสายตาด้านหลังของตัวรถทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของช่องทางเดินรถในขณะถอยหลัง เมื่อกำลังถอยหลังออกจากช่องจอดเข้าสู่ช่องจราจร เซนเซอร์หลังของรถจะทำการเช็คด้านซ้ายและขวาของช่องจราจรและ ส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียงและภาพ หากผู้ขับขี่ยังเพิกเฉย ไม่หยุดรถ ระบบเบรกอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินจะเริ่มทำงานด้วยการลดความเร็วและหยุดรถเพื่อหลีกเลี่ยงการชน
  • ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) ในขณะที่ขับรถต่ำกว่า 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถจะบันทึกเส้นทางและสามารถถอยหลังกลับได้ในระยะ 50 เมตรโดยอัตโนมัติ และหากเลือกเกียร์ถอย รถจะสามารถถอยหลังกลับได้เองโดยใช้ข้อมูลสิ่งกีดขวางต่างๆ ที่ถูกบันทึกไว้
  • ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW) ระบบตรวจสอบและแจ้งเตือนวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหว หากพบการเปิดประตูรถ เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ เมื่อรถจอดเรียบร้อยแล้ว หากมีการตรวจจับวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวได้ เช่น มีรถหรือนักปั่น จะมีไฟเตือนการเปิดประตูจะแสดงขึ้นบนหน้าจอ และเมื่อประตูถูกเปิดออกในขณะที่วัตถุถูกตรวจจับได้ ไฟเตือนจะกระพริบและจะมีเสียงเตือน
  • ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM) ช่วยประเมินและวิเคราะห์ลักษณะในการขับขี่ เช่นมุมบังคับเลี้ยว การเบรก การควบคุมไฟส่องสว่าง และใบบัดน้ำฝน ระยะเวลาในการขับ หากพบว่ามีลักษณะการขับขี่ที่เหนื่อยล้า หรือหลังจากขับรถด้วยความเร็วเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และขับรถมากว่า 4 ชั่วโมง ระบบจะเตือนด้วยภาพและเสียงนาน 20 วินาที ทุกๆ 10 นาที โดยสามารถทำการตั้งค่าใหม่ได้ก็ต่อเมื่อทำการหยุดรถเท่านั้นรถจะทำการแจ้งเตือนและแนะนำให้หยุดพัก

Haval H6 Hybrid

ทั้งนี้ Haval H6 Hybrid เปิดให้ผู้ที่สนใจพรีบุคกิ้งในวันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยเข้าไปจองในแอปพลิเคชัน GWM ซึ่งภายใน 24 ชั่วโมงแรกได้ยอดจองสิทธิ์ไป 2,073 คัน(ไม่ต้องวางเงินจอง) และยกเลิกสิทธิ์ได้ ซึ่งเกรท วอลล์ มอเตอร์ ให้แพกเกจพิเศษสำหรับผู้ที่จองในกลุ่มแรกดังนี้

1.ดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 48 เดือน มูลค่าสูงสุด 85,000 บาท

2.ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เป็นระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุด 25,000 บาท

3.ฟรี 5 ปีเต็ม ค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง พร้อมอะไหล่สิ้นเปลือง เช่น แบตเตอรี่ผ้าเบรค ใบปัดนํ้าฝน (5 Years GWM Ultra Service Inclusive) รวมมูลค่า 65,000 บาท

4.ฟรี 5 ปี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมงผ่าน GWM Application มูลค่า 10,000 บาท

5.บริการส่งมอบรถถึงบ้านทั่วประเทศ พร้อมนํ้ามันเต็มถัง มูลค่าสูงสุด 10,000 บาท

6.สิทธิ์ในการเรียกใช้บริการรับหรือส่งรถยนต์เพื่อเข้ารับบริการ จำนวน 4 ครั้ง มูลค่า 3,000 บาท

7.สิทธิ์ในการใช้รถบริการเคลื่อนที่ (GWM Mobile Service) จำนวน 2 ครั้ง มูลค่า 1,500 บาท

8.รับ GWM point 30,000 คะแนน เพื่อแลกของสมมนาคุณและบริการต่างๆ บน GWMApplication

นอกจากนี้ ยังรับประกันคุณภาพตัวรถ(Factory Warranty &Roadside Assist) ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่แบบไม่จำกัดระยะทาง 8 ปี สำหรับแพกเกจ  ULTRA DEAL รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท แต่ โปรโมชั่น Haval H6 ในการเปิดตัววันนี้ Premiere Deal ลดลงเหลือเพียง ดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% นาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี และแพ็กเกจบำรุงรักษา GWM PRO Service Inclusive (GPSI) 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร มูลค่ากว่า 100,000 บาท

สำหรับ Haval H6 รุ่น Ultra ราคา 1.249 ล้านบาท และ Haval H6  รุ่น Pro ราคา 1.149 ล้านบาท เริ่มส่งมอบกลางเดือนกรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง  Haval H6 ระบบไฮบริด ทำงานอย่างไร

"เกรท วอลล์" ยืนยันมีรถเครื่องยนต์ ICE ขายในไทย HAVAL H6 Hybrid โกยยอดจอง 2,073 คัน