อัลฟาร์ดหรูไม่พอต้องรถตู้เลกซัส

ทว่าความอเนกประสงค์ นั่งสบาย ขึ้น-ลงสะดวก แบบมีคนขับให้ของอัลฟาร์ด ยังไม่หรูหราเพียงพอ ล่าสุดทีเอ็มที นำเข้า “เลกซัส แอลเอ็ม” (Lexus LM) เข้ามาขายในเมืองไทยแล้ว

“แอลเอ็ม” เป็นรถอเนกประสงค์แบบเอ็มพีวี โมเดลแรกของเลกซัส เปิดตัวในตลาดโลกตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่วนเมืองไทยเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2563 เป็นรถที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับอัลฟาร์ด แต่ขยับความหรูหราด้วยฟังก์ชัน การตกแต่งภายนอกภายในใหม่ทั้งหมด

การทำตลาดในไทยมีเพียงขุมพลังเดียวคือไฮบริด LM300h แต่เป็น 2 รุ่นย่อย คือ 7 ที่นั่ง และรุ่น 4 ที่นั่ง

“ไทยถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่ได้เปิดตัว All-New Lexus LM ซึ่งถือเป็นรถลักชัวรีแวนระดับหรู รุ่นแรกจากเลกซัส ด้วยการออกแบบประณีตและพิถีพิถัน เสมือนนั่งอยู่ในห้องโดยสารชั้นเฟิสต์สคลาส ให้ความสะดวกสบายขั้นสูงสุด” นายมิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าว

ด้วยกระจังหน้า Spindle Grille ขนาดใหญ่ที่บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของเลกซัส มาพร้อมกับไฟหน้า LED แบบ 3-eye ไฟท้าย LED ลากยาวตลอดความกว้างของรถเสริมให้ตัวรถดูกว้าง และไฟเลี้ยววิ่งแบบ Sequential Turning Lamps ช่วยแสดงให้เห็นทิศทางการเลี้ยวได้อย่างชัดเจน

ความสะดวกสบายและความบันเทิงระดับพรีเมียม ด้วยเบาะนั่งโฟมยูรีเทน AdaptiPedic โดย Woodbridge ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกของโลก หลังคามูนรูฟ 2 บานหน้าและหลัง ระบบไฟส่องสว่างบนเพดานปรับได้ 16 สี ด้านเครื่องเสียงเพื่อเศรษฐีหูทองจะเป็นยี่ห้อไหนไปไม่ได้นอกจาก Mark Levinson ให้มิติเสียงรอบทิศทางราวกับนั่งอยู่ในโรงภาพยนตร์ โดยรุ่น 4 ที่นั่งมาพร้อมลำโพง 19 ตัว และรุ่น 7 ที่นั่งจะมีลำโพง 17 ตัว

LM300h ในรุ่น 4 ที่นั่งติดตั้ง Partition กั้นระหว่างห้องคนขับกับผู้โดยสารเพื่อความเป็นส่วนตัว พร้อมจอทีวีขนาด 13.3 นิ้ว ตู้แช่เครื่องดื่มขนาด 14 ลิตร ที่สามารถทำความเย็นได้เร็วและเก็บความเย็นได้ดี

แล้วถ้าเครื่องดื่มเย็นๆยังไม่ช่วยให้คุณผ่อนคลาย ในรุ่น 4 ที่นั่ง เบาะมาพร้อมระบบนวด ที่นวดได้ทั้งบริเวณต้นขา หลัง และไหล่ หรือเลือกโปรแกรมนวดได้ 7 รูปแบบ

ตัวรถมีความยาว 5.04 เมตร และระยะฐานล้อ 3 เมตร ส่วนช่วงล่างหน้าแบบแมกเฟอร์สันสตรัต หลังปีกนก 2 ชั้น พร้อมล้ออัลลอยลายเด่น 17 นิ้ว ประกบยาง 225/60 R17

ระบบขับเคลื่อนไฮบริด ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 - 4,800 รอบ/นาที ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว โดยตัวหน้า 105 แรงม้า 270 นิวตัน-เมตร และตัวหลัง 50 แรงม้า 139 นิวตัน-เมตร (เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four) พร้อมแบตเตอรี่แบบนิกเกิลเมทัลไฮดราย

ส่วนกำลังรวมทั้งระบบผลิตได้สูงสุด 197 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 10.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. เคลมอัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ยไว้ 15.6 กม./ลิตร

LM300h รุ่น 7 ที่นั่ง ราคา 5.5 ล้านบาท และรุ่น 4 ที่นั่ง ราคา 6.5 ล้านบาท

 

หน้า 16-17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,557 วันที่ 15 - 18 มีนาคม พ.ศ. 2563