ฟอร์ด จับมือ โฟล์กพัฒนารถไร้คนขับ -รถยนต์ไฟฟ้า

17 ก.ค. 2562 | 15:17 น.
527

ค่ายมะกันฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และโฟล์กสวาเกน กรุ๊ป ประกาศขยายความร่วมมือเป็นพันธมิตรระดับโลกในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า และร่วมกับอาร์โก เอไอ เพื่อเปิดตัวเทคโนโลยีรถไร้คนขับในสหรัฐอเมริกา และยุโรป

 

ดร. เฮอร์เบิร์ท ไดส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โฟล์กสวาเกน และ นาย จิม แฮคเก็ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี พร้อมด้วย นาย ไบรอัน เซลสกี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาร์โก เอไอ ประกาศว่า โฟล์กสวาเกนจะร่วมกับฟอร์ดในการลงทุนกับอาร์โก เอไอ บริษัทแพลตฟอร์มเทคโนโลยีรถไร้คนขับ

 

ผลจากความร่วมมือระหว่างฟอร์ดและโฟล์กสวาเกน ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (SDS) ของอาร์โก เอไอ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการรุกตลาดยุโรป และอเมริกา นอกจากนั้นแล้ว แพลตฟอร์มของอาร์โก เอไอ ที่สามารถเข้าถึงตลาดผ่านเครือข่ายทั่วโลกของผู้ผลิตรถยนต์ ยังมีศักยภาพในการขยายเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติให้ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขวาง  ซึ่ง โฟล์กสวาเกน และฟอร์ดต่างก็จะนำระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติดังกล่าวมาใช้กับรถที่ผลิตขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เพื่อสนับสนุนการนำร่องการขนย้ายคนและสินค้าของทั้งสองบริษัท

ฟอร์ด จับมือ โฟล์กพัฒนารถไร้คนขับ -รถยนต์ไฟฟ้า

ฟอร์ด และโฟล์กสวาเกนจะถือหุ้นจำนวนเท่ากันในอาร์โก เอไอ และทั้งสองจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด สัดส่วนที่เหลือจะเก็บไว้เป็นกองทุนสำหรับค่าตอบแทนพนักงานของอาร์โก เอไอ โดยความตกลงครั้งนี้จะสมบูรณ์เมื่อได้รับการอนุมัติตามกฎระเบียบและเงื่อนไขตามข้อตกลง

 

“ในขณะที่ฟอร์ด และโฟล์กสวาเกนยังคงดำเนินกิจการอย่างอิสระจากกัน และแข่งขันกันอย่างดุเดือดในตลาด การร่วมมือกับอาร์โก เอไอเพื่อใช้เทคโนโลยีที่สำคัญนี้ ทำให้เรามีความได้เปรียบในด้านขีดความสามารถ ระดับการเข้าถึงครอบคลุมในทุกพื้นที่ และ การหันมาทำงานร่วมกันในหลายๆ ด้านทำให้เราสามารถแสดงพลังของความร่วมมือระดับโลกในยุคแห่งยานยนต์อัจฉริยะ เพื่อโลกอัจฉริยะ” นาย แฮคเก็ต กล่าว

โดยฟอร์ดจะเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่ได้ใช้การออกแบบรถยนต์ไฟฟ้า และโมดูลรถยนต์ไฟฟ้า (Modular Electric Toolkit  หรือ MEB) ของโฟล์กสวาเกน เพื่อส่งมอบรถไร้มลพิษในปริมาณมากให้กับตลาดยุโรป ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป  และฟอร์ดตั้งเป้าที่จะส่งรถไปจำหน่ายในยุโรปกว่า 600,000 คัน ที่ใช้โมดูลรถยนต์ไฟฟ้าในระยะเวลา 6 ปี พร้อมกับรถฟอร์ดรุ่นใหม่รุ่นที่สองสำหรับลูกค้ายุโรปที่อยู่ในระหว่างการตัดสินใจ โดยการดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ตลาดยุโรปของฟอร์ดคือการใช้จุดแข็งของฟอร์ด ที่มีทั้งรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ รถครอสโอเวอร์ และรถนำเข้าระดับตำนานอย่าง มัสแตง และ เอ็กซ์พลอเรอร์

ฟอร์ด จับมือ โฟล์กพัฒนารถไร้คนขับ -รถยนต์ไฟฟ้า

ส่วนโฟล์กสวาเกนเริ่มพัฒนาโมดูลรถยนต์ไฟฟ้าดังกล่าวในปี 2559 โดยใช้เงินลงทุนกว่า 7 พันล้านเหรียญสหรัฐ และวางแผนจะใช้โมดูลนี้ผลิตรถราว 15 ล้านคันเฉพาะสำหรับโฟล์กสวาเกน กรุ๊ปภายใน 10 ปีข้างหน้า
 

สำหรับฟอร์ด การใช้โมดูลรถยนต์ไฟฟ้าของโฟล์กสวาเกนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการลงทุนกว่า 11.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก และเป็นไปตามพันธกิจของฟอร์ดที่จะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่นให้กับลูกค้ายุโรป โดยสอดคล้องกับนโยบายความยั่งยืนของบริษัท

 

ดร. ไดส์ กล่าวว่า การนำโมดูลรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในอีกระดับ ทำให้ต้นทุนในการพัฒนารถยนต์ไร้มลพิษ ลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้ทั่วโลกสามารถใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้ทั่วถึงและรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการยกระดับตำแหน่งทางธุรกิจของทั้งสองบริษัท โดยประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน การเติบโต และขีดความสามารถในการแข่งขันที่ดียิ่งขึ้น

 

การร่วมมือเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ ครอบคลุมการทำงานร่วมกันนอกเหนือการร่วมทุนระหว่างโฟล์กสวาเกนและฟอร์ดใน อาร์โก เอไอ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงการถือครองหุ้นของทั้งสองบริษัทแต่อย่างใด และยังเป็นอิสระจากการลงทุนในอาร์โก เอไอ ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวกำกับดูแลโดยคณะกรรมการร่วม ซึ่งนำโดย แฮคเก็ต และ ไดส์ และรวมถึงผู้บริหารระดับสูงจากทั้งสองบริษัท

ฟอร์ด จับมือ โฟล์กพัฒนารถไร้คนขับ -รถยนต์ไฟฟ้า

นอกจากนี้ โฟล์กสวาเกน และ ฟอร์ด ยังคงร่วมมือกันในการพัฒนารถกระบะขนาดกลางสำหรับลูกค้าทั่วโลก โดยคาดว่าจะเริ่มในปี พ.ศ. 2565 ตามด้วยรถตู้เชิงพาณิชย์