เตรียมตัวให้พร้อม สำหรับคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศที่ต้องการจดทะเบียนสมรส เพราะในวันที่ 23 มกราคม 2568 กฎหมายสมรสเท่าเทียมของไทยจะมีผลบังคับใช้เป็นวันแรก โดยคู่รักที่ต้องการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมสามารถจดได้ที่สำนักทะเบียนและอำเภอ 878 แห่ง พร้อมทั้งสำนักงานเขต 50 แห่งทั่วกรุงฯรวมไปถึงสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลไทยในต่างประเทศ 94 แห่ง ทั้งนี้สามารถตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆรวมไปถึงเอกสารหลักฐานที่ต้องเตรียมการ โดยจะมีอะไรบ้าง ตรวจสอบได้ดังต่อไปนี้
คุณสมบัติของผู้จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม
- บุคคลทั้งสองจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี บริบูรณ์ (กรณีผู้เยาว์ต้องนำบิดามารดาหรือผู้ปกครองมาให้ความยินยอม)
- กรณีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องได้รับอนุญาตจากศาล
- ไม่เป็นคนวิกลจริต หรือไร้ความสามารถ
- ไม่เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดา หรือร่วมแต่บิดามารดา
- ไม่เป็นคู่สมรสของบุคคลอื่น
- ผู้รับบุตรบุญธรรมจะสมรสกับบุตรบุญธรรรมไม่ได้
- หญิงชายผู้เป็นคู่สมรสตายหรือการสมรสสิ้นสุดลงด้วยประการอื่น จะสมรสใหม่ได้ต่อเมื่อสิ้นสุดการสมรสไปแล้วไม่น้อยกว่า 310 วัน เว้นแต่
- คลอดบุตรแล้วในขณะนั้น
- ศาลมีคำสั่งให้สมรสได้
- มีใบรับรองแพทย์ว่าไม่ได้ตั้งครรภ์
- สมรสกับคู่สมรสเดิม
สถานที่รับจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม
- สำนักทะเบียนอำเภอ สำนักทะเบียนเขต และสถานทูต/กงสุลไทยในต่างประเทศทุกแห่ง
จดทะเบียนสมรสเท่าเทียมเอกสารที่ต้องใช้มีอะไรบ้าง
- บัตรประชาชน หรือยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ThaiD
- หนังสือเดินทางประเทศไทย
- พยาน 2 คน ต้องเป็นบุคคลบรรลุนิติภาวะ
- หนังสือรับรองสถานภาพการสมรสที่แสดงว่าไม่มีคู่สมรสในขณะที่จะจดสมรส
กรณีที่ต้องใช้หนังสือยินยอม (ผู้มีอำนาจปกครองของผู้เยาว์ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ และยังไม่บรรลุนิติภาวะไม่สามารถมายินยอมต่อหน้าเจ้าหน้าที่ได้)
สัญญาก่อนสมรส (ถ้ามี) กรณีเป็นเอกสารภาษาต่างประเทศต้องแปลเป็นภาษาไทย