สังคมยกระดับถ้าปรับคนให้เป็นมนุษย์ (3)

♡ อุ่นเครื่องด้วยเรื่องเล่าคัดจากพงศาวดารข่าว เล่ากี่รอบก็ยังทันสมัย นักการเมืองมาเลเซีย 16 คน เขาพร้อมใจกันแต่งกายประชดประชันผูกหูกระต่ายสีแฟนซีเข้าไปในรัฐสภาเพื่อหวังประท้วง รัฐมนตรีวัฒนธรรม ศิลปะ และ มรดกแห่งชาติ เนื่องด้วย ราอีส ยาติม ได้แต่งกายในชุดเนห์รู ซึ่งเป็นชุดเสื้อคอปิดแบบอินเดียแล้วไม่ได้ผูกไท 

จึงทำให้เกิดข้อถกเถียงเรื่องของการแต่งกายที่เหมาะสมในรัฐสภา นสพ.สตาร์เดลี รายงานว่า ในที่สุดแล้ว รามลี งะห์ ตอลิบประธานสภาผู้แทนราษฎร จึงตัดสินใจว่า แต่งกายด้วยการผูกหูกระต่ายได้แต่สีต้องไม่ฉูดฉาด ‘‘คงไม่เป็นการดีถ้าเราจะมาพิพาทกันเรื่อง ส.ส. ใช้หูกระต่ายสีแดงหรือสีชมพู’’ (ฮา)

♡ ผมอ่านหนังสือปรัชญาตั้งแต่เรียนชั้นประถมเพราะคุณพ่อท่านเป็นครูสอนประวัติติศาสตร์ พ่อผมดวงดีที่เกิดปลายสมัย ในหลวง ร.7 ช่วงนั้นเขายังไม่เลิกเรียนวิชาประวัติศาสตร์ ไม่งั้นคงตกงาน (ฮา)

ผมจำแง่คิดท่าน จังจาค รุสโซ ได้ ท่านบอกไว้ว่า “เราพบปะคนมากขึ้นเท่าไหร่ เรายิ่งรู้จักคนน้อยลงเท่านั้น” แปลความได้ว่า “แต่ละคนมีส่วนประกอบหลากหลายจึงยากที่จะกำหนดตายตัวว่าคนไหนคือคน” (ฮา)

ท่านก็จริงจังไปหน่อย ลืมนึกไปว่า ผักทุกสายพันธุ์ก็คือ ผัก เพียงแต่ ผักชนิดไหนกินแล้วตายก็อย่าไปสุงสิงกับเขา และ ระวังอย่าให้เขาเล็ดลอดเข้ามางอกในแปลงเราเป็นใช้ได้

♡ กรรมพันธุ์ คือ ถ่ายทอดลักษณะจำเพาะจากพ่อแม่ไปสู่ลูก โดยมี สารพันธุกรรม หรือ DNA เป็น ผู้ส่งของ แบบตรงปก ไม่ว่าจะเป็น ใบหน้า สัดส่วน ผิวพรรณ ตลอดทั้ง สติปัญญา และ นิสัยใจคอ มันเป็นไปตามที่คนโบราณเขาพูดกันติดปากว่า “หน้าตาเหมือนพ่อเป๊ะเลย เลือดพ่อมันแรง” แปลว่า “เชื้อไม่ทิ้งแถว” 

เฟซบุ๊ก ของ MONO NEWS รายงานข่าวเรื่องนิสัยพ่อที่ได้ถ่ายเชื้อผ่านสายเลือดไปสู่ลูก ซึ่งมีเนื้อหาน่าสนใจว่า นักวิจัยอิสระได้ศึกษาคู่แฝดกว่า 100 ราย พบว่า ถึงแม้ว่าการเลี้ยงดูจะแยกจากกันไปแล้ว แต่ยังมีลักษณะบางอย่างที่ออกอาการคล้ายกัน ทั้งพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ เช่น แฝดที่เลี้ยงห่างกัน 45 ไมล์ เป็นเวลา 39 ปี เลือกใช้รถยนต์สีรุ่นเดียวกัน สูบบุหรี่ยี่ห้อเดียวกัน เลี้ยงสุนัขชื่อเดียวกัน พักร้อนชายหาดเดียวกัน

♡ ทศวรรษก่อนเรามักจะแซวเด็ก Gen Y ว่า เป็นลูกเทวดา เป็นวลีสะกิดใจชวนให้นึกถึงมุกที่เคยเล่ากันว่า พ่อเกิดมาก็เถียงยอกย้อนเกทับผู้เฒ่าจนปูย่าตายายปวดไต ลูกของพ่อมี ลูก ก็ได้ ผู้สืบสันดาน พูดจาทับถมตะพึด พ่อจึงเตือนลูกว่า “ลูกต้องรู้จักให้เกียรติพ่อ อย่างน้อยพ่อเกิดก่อน ฉลาดกว่าลูก!”  

ลูก ได้ฟังจึงเริ่มวาดลวดลายทันทีว่า “เอ๊! ใครเป็นคนคิดประดิษฐ์หลอดไฟคนแรกนะพ่อ” พ่อ ตอบทันทีโดยไม่ลังเลว่า “โทมัส อันวา เอดิสัน ไงล่ะ...” ลูกงับเหยื่อทันควันว่า “นั่นไง ถ้าพ่อฉลาดกว่าลูกแล้วทำไมพ่อของ โทมัส อันวา เอดิสัน ถึงไม่คิดผลิตหลอดไฟก่อนลูกล่ะ... ” (ฮา)

♡ เมื่อ 2 พ.ค. 2566 ในโบกี้รถไฟความเร็วสูง เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน เด็กชายผู้ไร้มารยาทนั่งอยู่แถวหลัง ใช้เท้าเตะเบาะที่นั่งของสุภาพสตรีซ้ำๆ เธอก็ใจเย็นเห็นใจว่า เด็กซนนับว่าเป็นเรื่องปกติ เด็กตัวผู้แกยังคงคึกคักกับการเตะพนักเก้าอี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เธอนอนไม่หลับ 

เธอจึงหันไปทางด้านหลังแล้วเตือนเด็กชายอย่างแผ่วเบา พ่อแม่ของเด็กก็สุดจะเหลือเดน นอกจากจะไม่ขอโทษไม่เตือนลูก ยังมีโมโหโกรธาพูดจาหยาบคายด่าเธอว่า ใจแคบ แถมโปรโมชั่นด้วยการ “ตบหน้า”

ชายคนหนึ่งโกรธแทนก็ลุกขึ้นมาช่วยเธอพร้อมกับคอมเมนท์ พ่อสิ้นดี กับ แม่สิ้นคิด ว่า “การมีลูกไม่ได้หมายความว่า คุณจะมีสิทธิ์ทำตัวไร้เหตุผลได้” บรรดาผู้โดยสารในโบกี้นั้น ปรบมือเห็นด้วยกับคำพูดของเขา (เผ่าะแผ่ะ…เผ่าะแผ่ะ ยกกำลังล้านไปเลยนิ)

♡ อัตลักษณ์ความเป็น คน ดูกันที่พื้นฐานสุขภาพซึ่งมีผลกระทบต่อนิสัยกับความสามารถอันประกอบด้วย 1 สายเลือด (กรรมพันธุ์) 2 การอบรมเลี้ยงดู  (ไลฟ์สไตล์ กับ มายเซ็ท) 3 สิ่งแวดล้อม (สังคม กับ พื้นที่) และ 4 บุพกรรม (การกระทำที่เหมาะสมหรือไม่สง่างามในอดีต) เงื่อนไขเหล่านี้จัดว่าเป็น “องค์ประกอบสี่” แบบว่า “ดือ” คือ “ดี” หรือ “องค์ประกอบซี้” แบบว่า “ต้มเล้ง คือ “แย่กว่าบูด” ผันแปรได้ตามสภาพ

องค์ประกอบดั่งว่าเป็นเพียง รากเหง้า หรือ กำพืด ดั้งเดิม มันฝังลึกจนยากที่จะลบรูป ใครสนใจแปรรูปชีวิตต้องเพิ่มตัวช่วยอีก 4 องค์ประกอบ  1 อาหาร (อย่ากินต้นไม้ในเขตป่าสงวน) 2 อุตุ (อย่าเผาป่าเพื่อหาเห็ด) 3 จิต (อย่าดูแคลนประเทศบ้านเกิด) และ 4 นวกรรม (อย่าหาทำด้วยการเรียก “เมียของพ่อ” ว่า เธอ?) ควรจะเรียกให้เหมาะสมกับสถานการณ์ว่า “ท่านพลังเงียบ!” (ฮา) 

ขอบอกว่า เงื่อนไขการบำบัดและบำรุงกาย และจิตทั้ง 8 องค์ประกอบ ล้วนเป็นหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนโดยไม่คิดค่าหน่วยกิต ขอขมาที่จะขอใช้สำนวน Gen Z แบบ Z…Z ว่า พระพุทธเจ้าเข้าเกณฑ์ “ความโป๊ะเป็นศูนย์” คือ “ไม่มีที่ติ”.

♡ ครอบครัวใดที่มัวเพลินก้มหน้าดูละครออนไลน์ ควรแบ่งเวลามาอ่านสุภาษิตจีนสักนิดที่แนะนำเราว่า “อย่ามัวแต่จำกัดครอบครัวของคุณให้อยู่กับการเรียนรู้ เพราะพวกเขากำลังไปเกิดใหม่กับคนอื่น!”