สังคมยกระดับถ้าปรับคนให้เป็นมนุษย์ (1)

29 เม.ย. 2566 | 06:30 น.

สังคมยกระดับถ้าปรับคนให้เป็นมนุษย์ (1) : คอลัมน์เปิดมุกปลุกหมอง หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 2883 โดย...ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล

บ้านผมสมัยวัยเด็ก 5 ขวบ ปักหลักอยู่ในสวนมีรั้วลวดหนามสูงขึงล้อมรอบสวน มีประตูเข้าออกเพียงทางเดียว กลางคืนพ่อกางมุ่งหลังใหญ่นอนกันตรงระเบียงบ้าน ผมนอนติดริมระเบียง สะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนตี 3 แลเห็นคนร่างใหญ่ใบหน้าดุ เดินจากในสวนเข้ามาใกล้ชิดติดริมระเบียง จ้องมองหน้าผมแล้วก็เดินเลยหายไป 

ผมไม่ได้ตกใจแต่รู้สึกนะจังงัง ลุกขึ้นมานั่งด้วยความสงสัยว่า เขาข้ามรั้วเข้ามาได้ยังไง ทำไมสองตาไม่กระพริบ เค้าหน้าก็

 

คล้ายคลึงกับยักษ์ ผมเชื่อมาหลายสิบปีว่า “ผมโดนผีหลอก” เอาเข้าจริงผู้เฒ่าก็เล่าว่า “เขาไม่ใช่ผี เขาเป็นยักษ์ผู้รักษาพื้นที่” 

เวลาผ่านไปเนิ่นนานวัน พ่อก็เล่าให้ฟังว่า “เขามาบอกว่า อยู่ตรงที่อยู่นะ อย่าเข้าไปปลูกบ้านด้านใน” มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมเองฝันชัดว่า ปักธูปไหว้เจ้าที่แล้วธูปงอเป็นตัวเลข 276 ผมกำตังค์ไปซื้อหวยกับเขามั่ง เลขที่ออกงวดนั้น คือ 672 (ฮา) 

สตาร์ทอัพด้วยเรื่อง ผี เพื่อที่จะพึ่งพาอาศัย ผี เป็นตัวละครเดินเรื่อง ผี คือ วิญญาณ หรือ ดวงจิตของผู้ที่ตายแล้ว หลวงปู่มั่น ท่านเล่าเอาไว้ว่า วิญญาณบางดวงไม่มีพลังที่จะแสดงตัวตน ท่านได้ยินแต่เสียงมาขอส่วนบุญ ถ้าผีนั้นยังอยู่ในสมัยนี้โอกาสที่จะใช้สิทธิ์ผียากไร้กับเขามั่งสัก 300 บาท ก็คงจะอด (ฮา) 

บางดวงก็โผล่มาแค่ดวงตา บางดวงโผล่มาแค่ครึ่งตัว บางดวงมีตัวตน แต่ไม่มีฤทธิ์อื่นใดที่จะแสดง บทความของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เมื่อ วันที่ 26 ต.ค. 2563 หัวข้อ เล่าสู่กันฟัง...เรื่อง “ผี!ผี!ผี!” คัดข้อมูลมาจากหนังสือ ผีไทยไม่มีวันตาย โดย ณิชา พีชวณิชย์ เนื้อหานี้จัดว่าเป็นเป็นข้อมูลแจ้งเกิด คือ “ผีเป็นปรากฏการณ์ที่มีอยู่จริง การจะแลเห็น ผี ต้องมีลักษณะมาตรฐานตาม SNG อีก 7 ข้อ 

ทั้งนี้ 2 ใน 7 ข้อ การปรากฏตัวของ ผี แต่ละครั้ง กินเวลาประมาณ 2 วินาที ถึง 10 นาที อนึ่ง ผีบางกลุ่มเขาสามารถเปล่งแสงสว่างเรืองแสงในตัวเองได้ โดยมีกำลังส่องสว่างอยู่ในช่วงความเข้มของแสงประมาณ 1-20 แรงเทียน! (ฮา)

พระธรรมกิตติเมธี วัดราชาธิวาส กทม. ก็เคยเล่าให้ผมฟังว่า “มีอยู่คราวหนึ่ง อาตมาไปคุยงานที่กุฎิของพระในวัด คุยเสร็จก็เดินทอดน่องกลับกุฏิของอาตมา ขณะที่เดินผ่านต้นโพธิ์ อาตมาเห็นผู้หญิงเธอแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดลายไทยมีสไบพาดบ่า เดินหายเข้าไปในต้นโพธิ์ต่อหน้าต่อตา” วิญญาณที่พระคุณเจ้าเห็น เป็น รุกขเทวดา ที่ผมเห็น เป็น พระภูมิเจ้าที่ ถ้า พระอินทร์ แปลงกายเป็นพราหมณ์มาปรากฏตัวเพื่อเตือนเราว่า “เลือกตั้งรอบนี้เลือกคนดีเป็นนายกนะลูก” (ฮา) 

เราเห็นภาพที่มาแสดงตัวตนแต่ก็ไม่รู้ว่าใผเป็นใผ จึงเรียกเหมารวมมั่วๆว่า “ผี!” ในทำนองเดียวกัน ในทำนองเดียวกัน เราไม่รู้ว่าผู้ที่ช่วยเข็นรถให้เราสตาร์ทเป็นใครเราจึงคุยกับแฟนว่า  “โชคดีนะที่มีคนมาช่วยช่วยเข็นรถให้เราสตาร์ท” เอาเป็นว่าเริ่มตั้งแต่ ขอทานไปจนถึงท่านผู้นำ ถ้าไม่รู้จักว่าเป็นใครก็เดาสุ่มเอาไว้ก่อนว่า “คน” กว่าจะรู้ว่าเป็น “พี่มิจ!” ก็โดนกันตรึม

                   สังคมยกระดับถ้าปรับคนให้เป็นมนุษย์ (1)

“คน” หมายถึง “สัตว์ชนิดหนึ่งของโลกที่ทำอะไรต่อมิอะไรกันไปตามสัญชาติญาณซึ่งมีมาแต่กำเนิด เช่น สติหลวม ปัญญาโหล ไม่รู้จัก ควบคุมอารมณ์ตัวเอง ใช้กำลังในการแก้ปัญหา ไม่สนใจความกตัญญูกตเวที ไม่แยแสกริยามารยาท สมสู่เพื่อคลายความหื่นแล้วทิ้งขว้าง ไม่มีเมตตากรุณา โชคดีที่เดินตั้งตรง จึงเรียกว่า คน

ถ้าหากลำตัวขนานกับโลกตลอดชีวิต ก็เรียกว่าสัตว์เดรัจฉาน
ภรรยา นายยาป ชาวมาเลย์ วัย 46 ปี มีบัญชาสามีว่า “รีบเข้านอนแต่หัวค่ำ ไม่ต้องไปรอดูบอลมันหรอก มันเตะกันดึก พรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้าพาลูกไปโรงเรียน’’ หลังจากภรรยาหลับ สามีก็ดอดออกมาจากห้องนอนตอนตีสอง เพื่อดูแมตช์หยุดโลกคู่ อังกฤษ กับ ฝรั่งเศส เขาเชียร์ฝรั่งเศส ทั้งๆ ที่โดนยิงนำไป 1-0 

ไฮไลท์ อยู่ในช่วงทดเวลา 3 นาที ซิเนอดีน ซีดาน ปั่นลูกฟรีคิกนอกเขตโทษเข้าประตูอังกฤษ ตามมาด้วยแจ๊คพอต  เดวิด เจมส์ ประตูอังกฤษ วิ่งออกมาเสียบ เธียร์รี อองรี ในเขตโทษ ซีดาน จึงยิงลูกโทษดอกที่สองเข้าไปอีก อังกฤษ จึงแพ้หวุดหวิด 1-2 ประตู เขาดีใจสุดขีด ตะโกนเชียร์สุดๆ ภรรยาสะดุ้งตื่นเดินออกมายึดรีโมต กับ การ์ดดาวเทียมพร้อมกับสั่งว่า “ต่อไปนี้ห้ามดูแม้แต่แมตช์เดียว!” (ฮา) 

“มนุษย์” หมายถึง ผู้มีใจสูง เพราะว่ามีชุดความคิดด้านคุณธรรมกำกับจิต เช่น “สำรวมเพราะรู้ตัวว่าใผเป็นใผในแต่ละจ๊อบ” ใครยึดถือคติฉบับพกพาประโยคนี้ได้ทุกเวลารับประกันซ่อมฟรีเลยว่าไม่โดนแกง 

มหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี นามเดิม สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา นามปากกา ครูเทพ เป็น เสนาบดีกระทรวงธรรมการ เป็น ประธานสภาผู้แทนราษฎร ท่านแรก เป็นผู้แต่งเพลง กราวกีฬา ร้องกันลั่นสนามว่า “กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ แก้กองกิเลส ทำตนให้เป็นคน!” วรรคนี้ผมถือว่าเป็น คาถา เสียด้วยซ้ำ 

สรุปว่า คน : ล่าเหยื่อ มนุษย์ : รับเหยื่อโดยข่มใจไว้อย่าได้ยินดี, คน : หัวร้อน มนุษย์ : หัวเย็น, คน : ห่วงใยตนเอง มนุษย์ : ใส่ใจผู้อื่น, คน : มักมาก มนุษย์ : พอควร, คน : อาฆาต มนุษย์ : ให้อภัย, คน  : ไม่ระมัดระวังมารยาท มนุษย์  : มารยาทเรียบร้อย, คน : ไม่พัฒนาตนเอง มนุษย์ : ยกระดับตนเอง, คน : กิน นอน ถ่าย สืบพันธุ์ มนุษย์ : กิน นอน ถ่าย สืบพันธุ์ ช่วยคน , คน : สำคัญผิด มนุษย์ : คิดถูกจุด

สหายผมอ่านแล้วเขาขออนุญาตแถมท้ายว่า “เฮ้ย เราเวียนเทียนเป็นทั้งคนทั้งมะนุดเลยเว้ย” (ฮา)