ลั่นระฆัง Sustainability Expo 2022 7 วัน 7 กิจกรรมสร้างโลกยั่งยืน

22 ก.ย. 2565 | 13:28 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ก.ย. 2565 | 21:13 น.

Sustainability Expo 2022 เดินเครื่อง จัดเต็ม 7 วัน 7 กิจกรรม พร้อมนำเสนอนวัตกรรม สร้างโลกยั่งยืน เผยโซนเด็ด “Better Community” เทรนด์เทคโนโลยี สร้างชุมชนที่ดีกว่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งาน Sustainability Expo 2022 (SX2022) เริ่มเดินเครื่องแล้ว ระหว่างวันที่ 26 กันยายน – 2 ตุลาคม 2565 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีการจัด 7 กิจกรรม ด้านความยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” โดยจะมี 50 องค์กร100 วิทยากร และกว่า 200 เครือข่ายธุรกิจยั่งยืน ร่วมให้ความรู้ 

 

สำหรับ 7 กิจกรรมความยั่งยืน ได้แก่

  1. กิจกรรมเปิดโลก เรียนรู้ผ่านนิทรรศการมัลติมีเดียเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น ชุมชนที่ดีขึ้น และคุณดีขึ้น
  2. กิจกรรมเรียนรู้ ร่วมเปิดโลกใหม่ พบกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่แห่งความยั่งยืน
  3. กิจกรรมลงมือ ร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น SX Hackathon, Trash to Treasure, การสาธิตการทำอาหารคาร์บอนต่ำ
  4. กิจกรรมแห่งโอกาส เพิ่มทักษะความสามารถตัวเองจากคำแนะนำด้านอาชีพและเวิร์กช็อปจากผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาที่ยั่งยืน
  5. กิจกรรมชิม ลิ้มรสอาหารแห่งอนาคตที่ดีต่อคุณและดีต่อโลก
  6. กิจกรรมช้อป สนุกกับการเลือกซื้อสินค้าเก๋ๆ ที่ดีต่อโลก
  7. กิจกรรมรับ ร่วมกิจกรรมรับคะแนนและรับของขวัญสุดพิเศษ

นอกจากนี้ ยังมีโซน “Better Community” ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับ Green and Digital Solutions โดยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก องค์กรระหว่างประเทศและในประเทศพร้อมทั้งนำเสนอแนวคิดการสร้างเมืองอัจฉริยะในอนาคตด้วยชุมชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างสรรค์

 

พร้อมทั้งนำเสนอแนวคิดการบริการจัดการดี เพื่อสังคมสมดุลใหม่ เช่น กระบวนการจัดการขยะในเมือง การสร้างและขยายพื้นที่สีเขียวในเมือง ตลอดจนการฟื้นฟูย่านชุมชนเก่าให้กลมกลืนกับวิถีชีวิตปัจจุบัน

ภายในงานยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับเทรนด์เทคโนโลยีเกี่ยวกับความยั่งยืน เช่น “Future of Work” อนาคตของการทำงาน ของ Microsoft วิธีที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล(DEPA), Tencent, Salesforce และ Dell ใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และ IOT เพื่อบรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืน เข้าสู่โลกเสมือนจริงของ Accenture และ Metaverse ด้วยแว่น VR จากOculus การแปลงพลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นพลังงานไฟฟ้าและเก็บพลังงาน ไฟฟ้าไว้ใช้ทั้งในรูปแบบครัวเรือนและรูปแบบองค์กรโดยใช้ Solar Inverter & Power Storage จากHuawei ชมนิทรรศการ Solar Farm และหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ จาก SCG และ SPCG เป็นต้น

 

ส่วนนวัตกรรมโลกยานยนต์ไฟฟ้า มี EV PARK ที่นำเสนอโลกยานยนต์ไฟฟ้า (EV) จากค่ายรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทย อาทิ NETA, LEXUS, VOLVO, รถโดยสาร, รถโม่ผสมคอนกรีต, ยานพาหนะเพื่อสิ่งแวดล้อมของ Thai Beverage Logistics และมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดจากยามาฮ่า 

 

เรียนรู้นวัตกรรม EV Solution Platform จาก SCG International รวมถึงตัวอย่างสถานีชาร์จEV และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะสร้างอนาคต เมืองอย่างไรให้การบริหารจัดการดีเพื่อสังคมสมดุลใหม่ ไขคำตอบได้ใน “โซน Better Community” 

 

ส่วนโซน BETTER ME จะนำเป็นโซนเกี่ยวกับนวัตกรรมการทางการแพทย์ การแพทย์ทางเลือกที่ทันสมัยและแม่นยำ นวัตกรรมด้านอาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์และความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป 

 

พร้อมทั้งเรียนรู้โครงการและความคิดริเริ่มต่างๆ (Lifelong Learning) ในการพัฒนาเยาวชนและการส่งเสริมการเป็นผู้ประกอบการ

 

การสาธิตวิธีใช้หุ่นยนต์ดินสอ ดูแลผู้ป่วย OPD โดยโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภาการชาดไทย เรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลป้องกันโรคหัวใจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของมูลนิธิโรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ วิธีป้องกันโรคไตจากโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ โรคธาลัสซีเมียจากแพทย์โรงพยาบาลเชียงใหม่ (สวนดอก) เคล็ดลับการดูแลสุขภาพง่ายๆ ด้วย 10 อ. กับ หมอแอมป์ จาก N Health และชมการสาธิตการนวดแผนโบราณเพื่อรักษาโรคออฟฟิศซินโดรม ไมเกรน และอัมพาต จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร

 

นอกจากนี้ บริษัท ชีวามิตร วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด จะช่วยวางแผนการเดินทางเข้าสู่ระยะท้ายไปจนสิ้นสุดปลายทางของชีวิตอย่างมีคุณภาพ เตรียมความพร้อมให้ทุกคนสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ ตลอดจนบริการสุขภาพในระยะท้ายที่ดีอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เพื่อให้คนไทยทุกคนลงมือสร้างคุณภาพชีวิตที่ “อยู่ดี - ตายดี” ด้วยตนเองได้อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พร้อมชวนทำ e living will หรือ พินัยกรรมชีวิต

 

เครือไทยเบฟ ยังร่วมนำเสนอเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมากมาย ซึ่งจะมีการเรียนรู้นวัตกรรมหลากหลายด้านอาหาร อาหารแห่งอนาคตและอาหารโปรตีนทางเลือกจากซีพีเอฟ และไทยยูเนี่ยน บริการรับคำปรึกษาและสร้างเครือข่ายผ่าน Space-F โครงการบ่มเพาะและเร่งการเติบโตของสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีอาหารแห่งแรกในประเทศไทย ชมการสาธิตจากหุ่นยนต์ Baristar โดย Ross Digital และสนุกกับ interactive games เพื่อเพิ่มความเข้าใจในเรื่องขยะอาหาร

 

มีการจัดแสดงนวัตกรรมด้านการผลิต การแปรรูป การเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงเทคโนโลยีด้านอาหารต่างๆจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ โรงเรือนปลูกผักแนวตั้งระบบปิดโดยใช้แสงแดดเทียม นวัตกรรมผลิตภัณฑ์แปรรูปมะพร้าว , กระบวนการจัดการและกำจัดของเสียในฟาร์มวัวนม, ระบบน้ำ หยดไร่อ้อย จ.ราชบุรี เป็นต้น

 

ภายในงาน ยังมีกิจกรรม Lifelong Learning จัดแสดงนิทรรศการผลงานนวัตกรรมของนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย อาทิ แคลเซียมที่สกัดจากกระดูกปลาบ้านประหยัดพลังงาน หุ่นยนต์กู้ภัย วัสดุก่อสร้างที่ทำจากยางพารา ผลิตภัณฑ์จากไหมที่เหลือ และอื่นๆ อีกมากมาย ชมการจัดแสดงแฟชั่นและงานศิลปะที่ยั่งยืนจากวัสดุรีไซเคิลเช่น ถุงปุ๋ยและเชือกพลาสติก และเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตผลจากโครงการที่ทำร่วมกับชุมชนเช่น โครงการ Social Lab, OTOP junior, ผลงานผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้า และ Creative Young Designers