ไมโครซอฟท์ ประกาศสร้างทักษะดิจิทัลแรงงานไทย 1.8 แสนปึ 65

04 เม.ย. 2565 | 14:29 น.
อัปเดตล่าสุด :04 เม.ย. 2565 | 21:53 น.

ไมโครซอฟท์ ประกาศความสำเร็จ ปี 2564 สร้างทักษะดิจิทัลแรงงานไทยทะลุเป้า 2.8 แสนคน ตั้งเป้าเพิ่มอีก 1.8 แสนคน ในปี 2565 ผ่าน ‘โครงการพัฒนาทักษะดิจิทัลเพื่อการจ้างงาน’ ผลักดันศักยภาพแรงงานไทย

นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดตัว ‘โครงการพัฒนาทักษะดิจิทัลเพื่อการจ้างงาน’ เฟสแรก ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ภายใต้ความร่วมมือกับ 7 พันธมิตรจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) และมูลนิธิกองทุนไทย ได้ร่วมเสริมสร้างทักษะให้แก่เยาวชนและบุคคลทั่วไปเป็นจำนวนกว่า 2.8 แสนคน ผ่านการจัดฝึกอบรมทักษะเชิงดิจิทัลของโครงการ 

 

สำหรับเฟสสองของโครงการ ไมโครซอฟท์มุ่งมั่นสร้างแรงงานดิจิทัลเพิ่มอีก 1.8 แสนคน ภายในสิ้นปี 2565 โดยเชื่อมั่นว่าโครงการนี้ สามารถช่วยเปิดโอกาสสร้างความเป็นไปได้ทางอาชีพได้ดียิ่งขึ้น และจะยังคงต่อยอดได้ยิ่งขึ้นไปอีกในสถานการณ์ที่โควิดยังอยู่กับเรา ซึ่งส่งผลต่ออัตราการว่างงานยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความสามารถด้านทักษะเทคโนโลยีและเครื่องมือดิจิทัล ยังมีบทบาทสำคัญ ในการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมของตลาดแรงงาน ดังนั้น การพัฒนาทักษะเหล่านี้จึถือเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ ความสำเร็จที่สำคัญอื่นๆ จากโครงการยังประกอบด้วย

ผู้เรียนหลักสูตรการศึกษานอกระบบกว่า 100,000 คน ได้รับการฝึกอบรมของโครงการผ่านศูนย์การเรียนรู้ระดับชุมชน โดย 66 เปอร์เซ็นต์ของผู้เรียนเป็นผู้หญิง ส่งผลให้พวกเขาได้รับโอกาสในการจ้างงานมากขึ้น และเพิ่มความมั่นใจในการทำงานมากขึ้นให้กับพนักงาน

  • ผู้เรียนกว่า 80,000 คน ได้เข้าถึงโอกาสในการเรียนรู้ที่เพิ่มขึ้น
  • ผู้เรียนกว่า 14,000 คน ได้พัฒนาตนเองและความเป็นอยู่ของครอบครัวให้ดีขึ้น
  • ผู้เรียนจำนวน 4,500 คน มีโอกาสพัฒนาและเติบโตในเส้นทางอาชีพ
  • ผู้เรียนจำนวน 4,500 คน มีรายได้เพิ่มขึ้น
  • ผู้เรียนจำนวน 1,900 คน ได้ประกอบอาชีพใหม่ และ
  • ผู้เรียนประมาณ 180,000 คน ได้เรียนรู้จากหลักสูตรออนไลน์ของโครงการ รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ของพันธมิตรทั้งหมด ซึ่งให้บริการแก่ผู้เรียนภายในโครงการทั้งหมด รวมถึงบุคคลทั่วไป โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยผู้เรียนที่สำเร็จการศึกษาตลอดหลักสูตรจะได้รับใบรับรองประกาศนียบัตรอีกด้วย 

ทั้งนี้ แพลตฟอร์มออนไลน์ของพันธมิตร ประกอบด้วย
ยูเนสโก: https://lll-olc.net/th/
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa): www.digitalskill.org/
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน): https://e-training.tpqi.go.th/
สถาบันพัฒนาบุคลากรดิจิทัล กระทรวงแรงงาน: ฝึกทักษะออนไลน์หมวดโปรแกรมคอมพิวเตอร์และทักษะดิจิทัล
 

นายวัลลพ สงวนนาม รักษาการ เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) กล่าวว่า จากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ จึงมีการปรับเนื้อหาหลักสูตรการเรียนรู้ให้เข้ากับเทรนด์ปัจจุบัน เช่น การเพิ่มหลักสูตรกลยุทธ์ทางการตลาดและการขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดีย ที่ครอบคลุมเนื้อหาที่หลากหลาย ตั้งแต่เทคนิคการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย ไปจนถึงวิธีการสร้างคอนเทนท์ เพื่อการค้าขายออนไลน์

 

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ที่มีพันธกิจในการให้ความรู้แก่คนทุกช่วงวัย เนื่องจากโครงการนี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนทุกระดับอย่างแท้จริง 

ดร. รัฐศาสตร์ กรสูต รองผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวว่า จากความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงคอร์สออนไลน์ เพื่อการพัฒนาทักษะดิจิทัล ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้เข้าร่วมโครงการ โดยช่วยเปิดโอกาสให้กลุ่มคนในทุกระดับและทุกช่วงวัยให้สามารถเข้าถึงและเข้าใจเนื้อหาหลักสูตรได้ง่ายยิ่งขึ้น 

 

ดีป้ามุ่งเน้นการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของคนไทย ให้ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว จะช่วยเปิดโอกาสการทำงานที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงการประกอบอาชีพในยุคดิจิทัล นับว่าเป็นการระดมกำลังเสริมสร้างทุนมนุษย์ของประเทศ ดีป้ามีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมและสนับสนุนเพื่อพัฒนาทักษะดิจิทัล และเป็นคอมมูนิตี้สำหรับแรงงานด้านดิจิทัล ที่เปิดประตูในการสร้างอาชีพ ผ่านการเสริมสร้างทักษะเพื่ออาชีพแห่งอนาคต

 

นายชิเงรุ อาโอยางิ ผู้อำนวยการองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก กรุงเทพฯ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นอุปสรรค และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อโครงการด้านการเรียนรู้จำนวนมาก ที่จัดทำขึ้นโดยหน่วยงานที่ส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับผู้ใหญ่ภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ส่งผลให้ผู้เรียนที่เป็นผู้ใหญ่มีจำนวนลดลงถึง 11% ในประเทศไทย อีกทั้งข้อจำกัดด้านการให้บริการเนื้อหาดิจิทัลที่มีคุณภาพ ยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเข้าถึงและคุณภาพของการเรียนรู้ โดยเฉพาะข้อจำกัดด้านการให้บริการเนื้อหาในภาษาท้องถิ่นหรือภาษาแม่ และเพื่อตอบรับความต้องการต่อการเรียนรู้ทักษะเพิ่มเติมและเรียนรู้ทักษะใหม่ที่มีอัตราเพิ่มมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน 

 

ทั้งในช่วงท่ามกลางและภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาด ยูเนสโกจะยังคงเดินหน้าในการทำงานกับพันธมิตรทั้งหมดอย่างใกล้ชิด เพื่อสนับสนุนความสามารถในการแข่งขันเชิงดิจิทัลและโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกสำหรับเยาวชนและบุคคลทั่วไปในประเทศไทย และทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เพื่อยกระดับการดำรงชีวิตและคุณภาพเป็นอยู่ของพวกเขาให้ดีขึ้น พร้อมส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของบุคคล และความยั่งยืนของชุมชน

 

ไมโครซอฟท์จะยังคงจัดทำเนื้อหาการฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างทักษะต่าง ๆ รวมถึงจัดทำวิดีโอการอบรม และคู่มือภาษาไทยเกี่ยวกับการใช้งาน Microsoft 365 ในระดับกลาง (intermediate) ซึ่งสอดคล้องกับทักษะที่จำเป็นต่ออาชีพที่กำลังเป็นที่ต้องการในปัจจุบัน โดยหลักสูตรการเรียนรู้ประกอบด้วย Basic Cyber Security, E-Commerce Content Creation ด้วย Microsoft Sway, Word Intermediate, Excel Intermediate และ PowerPoint Intermediate

 

นอกจากนี้ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาทักษะดิจิทัลที่ประชาชนสามารถเข้าถึงเนื้อหาการเรียนรู้ได้ผ่านเครือข่ายและแพลตฟอร์มของสำนักงานฯ  เช่น  depa Thailand - YouTube รวมถึงแพลตฟอร์มและช่องทางอื่นๆ ในอนาคต เพื่อต่อยอดไปสู่การพัฒนาทักษะดิจิทัลตามมาตรฐานสมรรถนะด้านดิจิทัล 

 

ยูเนสโก ยังได้ประสานความร่วมมือกับศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ในการจัดการฝึกอบรมครูของทางศูนย์ฯ พร้อมสนับสนุนให้เนื้อหาการฝึกอบรมที่จัดทำขึ้นในโครงการสามารถเข้าถึงเยาวชนที่อยู่ห่างไกลทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านแพลตฟอร์มของยูเนสโก โดยในปีนี้ เว็บไซต์ดังกล่าวยังได้ถูกพัฒนาเพิ่มเติม เพื่อนำเสนอหลักสูตรทักษะเชิงดิจิทัลของไมโครซอฟท์เป็นภาษาไทย ที่เว็บไซต์ www.lll-olc.net/th ซึ่งสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่และบุคคลทั่วไปสานต่อการเรียนรู้ไปตลอดชีวิตของพวกเขา เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการเรียนรู้ที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลาของแต่ละบุคคล และสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมกับ กศน. สามารถติดต่อได้ที่ กศน. ตำบลทั่วประเทศ