รู้ไว้ นวดเพื่อผ่อนคลาย vs นวดเพื่อรักษาโรค ต่างกันอย่างไร

13 ม.ค. 2568 | 14:55 น.

กรมการแพทย์แผนไทยฯ เผยความแตกต่างระหว่าง "การนวดเพื่อผ่อนคลาย" และ "การนวดเพื่อรักษา" พร้อมแนะนำวิธีเลือกสถานที่นวดให้เหมาะกับอาการและข้อควรระวังสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว

ปฏิเสธไม่ได้ว่า คนไทยรู้จักกับศาสตร์การนวดไทยมานานแต่มีจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่รู้ถึงความแตกต่างระหว่าง การนวดเพื่อผ่อนคลาย และการนวดเพื่อการรักษา 

ล่าสุด นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้อธิบายว่า การนวดไทย เป็นกระบวนการดูแลสุขภาพที่มีหลักการและองค์ความรู้ในการนวดตามแนวเส้นประธานสิบ ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย บรรเทาอาการปวดเมื่อย สำหรับท่านที่มีอาการปวดเมื่อยร่างกายและต้องการจะนวด ถ้าเป็นร้านนวดเพื่อสุขภาพจะนวดเพื่อผ่อนคลาย/นวดเพื่อสุขภาพ และจบหลักสูตรนวดเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมง

กลุ่มนี้จะไม่มีการบิด ดัด แต่ถ้ามีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง แขน และขา อาการมากกว่าปวดเมื่อย ผู้รับบริการควรไปคลินิกแพทย์แผนไทย ที่มีแพทย์แผนไทยตรวจวินิจฉัยก่อนจะลงนวดซึ่งเป็นหลักสูตรการนวดเพื่อการรักษาที่มีการเรียนการสอน ตั้งแต่ 330 ชั่วโมง 372 ชั่วโมง 800 ชั่วโมง และ 1,300 ชั่วโมง

วัตถุประสงค์เพื่อบำบัดรักษาแต่ละกลุ่มอาการ เช่น กลุ่มปวดกล้ามเนื้อ นิ้วล็อก หัวไหล่ติด อัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นต้น

กรณีการปวดศีรษะสามารถนวดได้หรือไม่นั้น ทั้งผู้ให้บริการนวด และผู้รับบริการนวดสามารถสังเกตได้ โดยแบ่ง อาการปวดหัวเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มแรก กลุ่มปวดหัวไม่รุนแรง ปวดเป็น ๆ หาย ๆ ช่วงหายจะหายสนิท เช่น อาการไมเกรน กล้ามเนื้อตึงตัว  (Tension - type Headache ), ปวดศีรษะคลัสเตอร์ (Cluster Headache) ,ปวดในกลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)

กลุ่มนี้สามารถรับบริการนวดได้ตามหลักสูตรและกระบวนการที่กำหนด โดยต้องทำการนวดที่คลินิกแพทย์แผนไทย หรือสถานพยาบาลที่มีแพทย์แผนไทยและผู้ช่วยแพทย์แผนไทยเป็นผู้ให้บริการ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและชำนาญในด้านนี้

กลุ่มที่ 2 ปวดหัวรุนแรงเฉียบพลัน หากปวดหัวค่อนข้างเร็วและปวดรุนแรง มีอาการอ่อนแรง เห็นภาพซ้อน หูอื้อ พูดไม่ชัด ให้มองว่าเป็นอันตรายและไม่ควรนวดโดยเด็ดขาด หรือแม้แต่ความดันโลหิตสูง และมีอาการปวดหัวก็ไม่ควรนวด ทั้งนี้ หากมีอาการปวดหัวเฉียบพลัน รุนแรง ควรพบแพทย์และงดเว้นการนวดโดยเด็ดขาด

นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

ทั้งนี้ การนวดมีประโยชน์ในหลายระบบของร่างกาย เช่น ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ การนวดทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย บรรเทาอาการขัดยอก ลดอาการเจ็บปวด ลดการเป็นตะคริวขณะออกกำลังกาย ระบบผิวหนัง และระบบไหลเวียนเลือด ทำให้การไหลเวียนเลือดบริเวณผิวหนังดีขึ้น ช่วยลดอาการบวม ระบบทางเดินอาหาร ช่วยลดอาการท้องอืด เฟ้อ ช่วยระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร ระบบการไหลเวียนเลือด นอกจากนี้การนวดยังส่งผลด้านจิตใจ ให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความตึงเครียดและลดความวิตกกังวลได้ด้วย

นายแพทย์สมฤกษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ผู้ให้บริการและผู้รับบริการนวดหากมีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องจะช่วยส่งเสริมคุณค่าการนวดไทย ส่งผลต่อความเชื่อมั่น ยกระดับการดูแลสุขภาพของคนไทยและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้