30 กันยายน 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจาของ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา ที่ทวงถามถึงความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการสาธารณสุข พ.ศ. ... ว่า ตนขอขอบคุณมากที่สะท้อนปัญหาของข้าราชการได้ชัดเจน
กระทรวงสาธารณสุขมีข้าราชการมากและภาระงานมาก คนส่วนใหญ่ทำงานได้ เป็นคนเก่งและบ่นน้อยที่สุด แต่ค่าตอบแทนกลับไม่สมดุลกับงาน
นอกจากนี้ ยังมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่มีประมาณ 1 ล้านคน เราใช้งานเขามากมายตั้งแต่ช่วงโควิด ทุกวันนี้คนเข้ามารักษาแต่ไม่มีการป้องกัน ตนจึงกำชับในส่วนนี้ว่า หากป้องกัน หยุดโรคได้จะประหยัดงบประมาณและบุคลากร
ตั้งแต่ผมมารับตำแหน่ง พ.ค. 67 ได้ดำเนินการติดตามต่อเนื่อง โดย มิ.ย. ได้ดำเนินการ สรุปเรื่อง และขั้นตอนที่ 2 เดือน ก.ค. มีการประชุมร่างกฎหมายและรับฟังความเห็นผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข 15 วัน และขั้นตอนที่ 3 สรุปประเด็น เผยแพร่ วิเคราะห์ผลกระทบและรายงานไปถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ทั้งนี้ ผมไม่ได้เป็นรัฐมนตรีติดต่อกัน มีการปรับ ครม.อยู่ครั้งหนึ่ง ช่วงที่ไปถึง ครม.แล้ว ผมต้องยืนยันร่างใหม่ หลังจากนี้ผมมั่นใจว่า ครม.ไม่มีปัญหา เพราะแผนงานจะเป็นตามขั้นตอนนั้น ทั้งในชั้นกฤษฎีกาและสภา นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการแก้ไขกฎหมายของสภาฯ ตนขอให้ใช้เวลาอย่างประหยัด เพราะบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขรออยู่ ส่วนการทำร่างกฎหมายนั้นโดยตามขั้นตอนสามารถใช้เวลา 2 ปี แต่หากตนยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 1-2 ปี มั่นใจว่า เสร็จทันแน่เพราะติดตามตลอด
สำหรับประโยชน์ของร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อแก้ปัญหากำลังคน กระจายบุคลากร ให้อำนาจกระทรวงสาธารณสุขจัดการบุคลากรด้วยตนเอง
ขณะนี้พยาบาล หนึ่งคน ทำงานหนักมากกว่าคนปกติ 2-5 เท่า รวมถึงต้องทำงานเกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ อดหลับอดนอน ส่งผลถึงประสิทธิภาพการทำงาน การให้บริการกับประชาชน ดังนั้นกฎหมายฉบับนี้จะช่วยสร้างความชัดเจนโดยตั้งคณะกรรมการหนึ่งชุดขึ้นาพิจารณารายละเอียด ช่วยบริหารจัดการ อัตราตำแหน่ง กระจายตัวที่เหมาะสม ค่าตอบแทนที่ตรงกับความเป็นจริง ไม่เป็นภาระของงบประมาณ ทั้งนี้ การผลิตหมอ 1 คน ใช้ต้นทุน 4 ล้านบาท ทั้งทางตรงและทางอ้อม ส่วนค่าตอบแทนจะให้เหมือนอาชีพปกติก็คงไม่ถูกต้อง นายสมศักดิ์ กล่าว
รมว.สาธารณสุข ย้ำว่า เมื่อพ.ร.บ.ดังกล่าวบังคับใช้ จะทำให้มีการปรับโครงสร้างให้มีความคล่องตัว คนที่ได้รับผลประโยชน์ที่สุดคือประชาชน ได้รับบริการและดูแลให้ดีขึ้น ทั้งประชาชนเข้ารับบริการด้านสาธารณสุขที่ง่าย สะดวก และดีขึ้น อย่างไรก็ดีในขั้นตอนการทำกฎหมายของสส. และสว. สามารถปรับแก้ไขให้สมบูรณ์ได้ ทั้งนี้การทำร่างกฎหมายดังกล่าวไม่พบว่ามีแรงต้านจากส่วนใด