"คลินิกนวัตกรรม" อีสานตอนบนคึก รับลูกนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย ทพ.กวี วีระเศรษฐกุล ผู้ช่วยเลชาธิการ สปสช. นพ.นพรัตน์ พันธุเศรษฐ์ ผอ.สปสช.เขต 8 อุดรธานี และคณะผู้บริหาร สปสช. ลงพื้นที่ จ.อุดรธานี และ จ.หนองคาย เมื่อเร็ว ๆ นี้ เพื่อติดตามการดำเนินนโยบาย "30 บาทรักษาทุกที่" ของหน่วยบริการนวัตกรรม 2 แห่ง ได้แก่ คลินิกทันตกรรมเฉพาะทางรากเทียมหมอนวลละออ และวัฒนาเฮลท์แล็บ คลินิกเทคนิคการแพทย์ พร้อมติดตราสัญลักษณ์ "30 บาทรักษาทุกที่" 

ทพญ.นวลละออ เกียรติศรีธนกร คลินิกทันตกรรมเฉพาะทางรากเทียมหมอนวลละออ เปิดเผยว่า ทางคลินิกเข้าร่วมนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ถือว่าได้ผลตอบรับค่อนข้างดี โดยในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ มีผู้ใช้สิทธิบัตรทองเข้ารับบริการวันละ 3 -10 คนต่อวัน

ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์ ที่เป็นวันหยุดมีผู้ใช้บริการประมาณวันละ 20 คน ทั้งนี้ ส่วนใหญ่แล้วผู้รับบริการเป็นประชาชนในพื้นที่ ที่เมื่อเห็นว่าทางคลินิกฯ มีป้ายบ่งบอกว่า รับผู้ป่วยสิทธิบัตรทองบริเวณด้านหน้าคลินิก ก็จะมาเข้ารับบริการ

มีผู้ใช้บริการเคยบอกว่า เมื่อไปโรงพยาบาลต้องไปรอคิวกว่าจะได้คิวก็ต้องใช้เวลานาน เพราะโรงพยาบาลมีผู้ป่วยเยอะ แต่มีที่คลินิกจะสะดวกสบายมากกว่า ขึ้นบันได้ 2 ขั้นก็สามารถเข้ารับบริการได้เลย และไม่ต้องลางานเพราะมาช่วงเย็นหลังเลิกงานก็สามารถมารับบริการได้ ทพญ.นวลละออ กล่าว

อย่างไรก็ตาม อยากให้ สปสช. ประชาสัมพันธ์นโยบายนี้ให้กับประชาชนรู้กันมากขึ้น ให้ประชาชนเพื่อให้รู้ว่ามีสิทธิในการเข้ารับบริการได้ อย่าเสียสิทธิทิ้งฟรี ๆ เพราะในส่วนบริการทันตกรรมสามารถทำได้ถึง 3 ครั้งต่อไปทั้งขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน เคลือบฟลูออไรด์ และเคลือบหลุมร่องฟัน อีกทั้งยังสามารถมาช่วงไหนก็ได้ที่คลินิกฯ เปิดทำการ เพิ่มความสะดวกให้ประชาชนอย่างมาก

พญ.พีรวรรรณ จังศิริวัฒนธำรง วัฒนาเฮลท์แล็บ คลินิกเทคนิคการแพทย์ กล่าวว่า คลินิกวัฒนาเฮลท์แล็บถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่เข้ามาเสริมการให้บริการทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ให้โรงพยาบาลหนองคาย เพื่อเพิ่มความสะดวกในการรับบริการให้กับประชาชนในพื้นที่ และช่วยลดความแออัดและลดการรอคอยในโรงพยาบาลลง 

"ปกติเวลาประชาชนไปรับบริการที่โรงพยาบาลกว่าจะได้รับคิวในการตรวจประมาณ 7 โมง ซึ่งกว่าที่ผู้ป่วยจะได้รับผลเลือดออกมา และกว่าจะเจอแพทย์อีกต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่การที่มาเจาะเลือดตรวจแล็บที่คลินิก ทางคลินิกจะเปิดตั้งแต่ตี 5 ได้ผลในเวลาไม่นานมาก เมื่อนำผลไปรอพบแพทย์ก็รอแพทย์เพียงไม่ถึงชั่วโมงช่วยลดเวลาที่ต้องรอคอยในโรงพยาบาลอย่างมาก โดยปัจจุบันมีผู้ป่วยสิทธิบัตรทองมาใช้บริการแล้วกว่า 40 - 50 คนต่อวัน" พญ.พีรวรรรณ กล่าว

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมในวันนี้รู้สึกยินดีแทนประชาชนในพื้นที่อย่างยิ่ง เนื่องจากทางหน่วยบริการนวัตกรรมทั้ง 2 แห่งที่เข้าร่วมให้บริการภายใต้นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ มีจุดมุ่งหมายเดียวกับ สปสช. คือ การช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และลดค่าใช้จ่ายแฝงในการรับบริการลง ซึ่งก็สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

อย่างทางคลินิกทันตกรรมเฉพาะทางรากเทียมหมอนวลละออ โดยปกติมีทั้งให้การรักษาเฉพาะทางในด้านการผ่าตัดกระดูกขากรรไกรและใบหน้า และให้บริการดูแลสุขภาพช่องปากทั่วไปด้วย ที่นี่มีการให้บริการทั้ง 2 ส่วน และได้เข้าร่วมให้บริการ 30 บาทรักษาทุกที่มากว่า 5 เดือนแล้ว จากข้อมูลพบว่า มีประชาชนมารับบริการมากพอสมควร

ส่วนคลินิกเทคนิคการแพทย์ มีจุดเด่นคือเป็นคลินิกฯ ที่ให้บริการตรวจแล็บได้อย่างครบวงจร และยังร่วมเป็นหน่วยบริการนวัตกรรม โดยร่วมมือกับทางโรงพยาบาลหนองคาย ซึ่งเปิดทำการตั้งแต่ตี 5 ก็ทำให้ผู้ป่วยมารับบริการและได้ผลตรวจเพื่อไปพบแพทย์ตามนัดที่โรงพยาบาลได้ ซึ่งแต่เดิมต้องรอเวลาทำการของโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจเลือดก่อน ทำให้มีความสะดวกมากขึ้น 

"จุดเด่นของคลินิกอยู่ที่ การทำกันเป็นเครือข่าย ซึ่งเราอยากให้คลินิกแล็บทุกๆ ที่ทั่วประเทศ ได้มีการเชื่อมโยงเครือข่ายในลักษณะนี้ ตอนนี้ สปสช. เขตได้มีการประสานโรงพยาบาลในพื้นที่ให้จัดเป็นเครือข่าย เพราะเป็นประโยชน์ที่เกิดขึ้นเกิดกับประชาชนโดยตรง" รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว