จากประเด็นเรื่องพบปรสิตปนเปื้อนในน้ำประปาภายในคอนโด แห่งหนึ่งและพบผู้ติดเชื้อมีอาการตาแดง เยื่อบุตาอักเสบเป็นจำนวนมากนั้น
นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กรมการแพทย์ รู้สึกห่วงใยในสุขภาพดวงตาของประชาชนซึ่งหากในกลุ่มผู้ที่ตาติดเชื้อมีอาการรุนแรงจากการติดเชื้อที่กระจกตาทำให้เกิดอาการระคายเคืองตา ตาแดง ปวดตา ถ้าเชื้อลุกลามอาจถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นได้
ด้านนายแพทย์อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า จากเหตุกรณีที่มีผู้มีอาการตาแดงหรือเยื่อบุตาอักเสบจำนวนหลายราย หลังจากการใช้น้ำที่มีปรสิตปนเปื้อนในน้ำนั้น โดยธรรมชาติทั่วไปเชื้อปรสิต เช่น ไมโครสปอริเดีย, อะมีบา มักพบในแหล่งน้ำจืด น้ำกร่อย และในน้ำเสีย
ส่วนใหญ่คนมักได้รับเชื้อปรสิตโดยบังเอิญจากแหล่งน้ำที่ไม่สะอาด เช่น แหล่งน้ำขัง หรือจากน้ำฝนที่ปนเปื้อนปรสิตกระเด็นเข้าตา อาจเกิดการติดเชื้อที่ดวงตาทำให้เยื่อบุตาอักเสบ กระจกตาอักเสบ มีอาการ ตาแดง เคืองตาหรือ ตามัวได้ หากมีปัญหากับดวงตาหรือมีอาการผิดปกติควรพบจักษุแพทย์
ขณะที่แพทย์หญิงนวลจิรา ประกายรุ้งทอง จักษุแพทย์ด้านกระจกตา กล่าวเพิ่มว่า จากเหตุกรณีที่เป็นข่าวขึ้นนั้นเกิดจากเชื้อปรสิต ไมโครสปอริเดีย ( Microsporidia ) ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุตาและกระจกตา หรือมีม่านตาอักเสบได้ โดยส่วนใหญ่จะพบได้บ่อยที่บริเวณชั้นผิวกระจกตา
โรคนี้จะสามารถติดต่อได้จากทางน้ำเป็นส่วนใหญ่ เช่น ในช่วงฤดูฝน หรืออาจจะเกิดจากการใส่คอนแทคเลนส์ จากการที่น้ำไม่สะอาดเข้าตาอาจทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้นได้
ผู้ป่วยส่วนหนึ่งที่เกิดการอักเสบของกระจกตาที่นานผิดปกติ อาจเกิดเป็นฝ้าขาวได้และในบางรายการอักเสบติดเชื้ออาจลุกลามถึงชั้นลึกของกระจกตา ทำให้การรักษายากขึ้น โดยทั่วไปจักษุแพทย์จะให้การรักษาด้วยยาหยอดตาหรือยารับประทานร่วมด้วย เพื่อกำจัดเชื้อปรสิต
หากกรณีที่เป็นมากหรือ การติดเชื้อเกิดในชั้นลึกของกระจกตา อาจมีความจำเป็นต้องมีการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาจากผู้บริจาค แต่โดยส่วนใหญ่ถ้าได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและถูกต้องก็จะหายได้ โดยไม่ได้มีแผลเป็นกระจกตาหรือการมองเห็นที่แย่ลง
ดังนั้น หากมีอาการผิดปกติควรปรึกษาจักษุแพทย์ทันที เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเรา