เทียบอาการ "ไข้หวัดใหญ่" ต่างจาก "ไข้หวัดทั่วไป"  

20 มิ.ย. 2567 | 11:50 น.
อัปเดตล่าสุด :20 มิ.ย. 2567 | 11:53 น.

เช็คอาการ "ไข้หวัดใหญ่" เทียบความแตกต่างกับอาการของ "ไข้หวัดทั่วไป" ต่างกันตรงไหน อาการแบบไหนติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สรุปรายละเอียดไว้ให้แล้วที่นี่ คลิกเลย

ไข้หวัดใหญ่ เป็นอาการป่วยที่เกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปีทั้งยังเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศและทุกวัย ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567–8 มิถุนายน 2567 มีรายงานผู้ป่วย 174,513 ราย อัตราป่วย 268.84 ต่อประชากรแสนคน มีรายงานผู้เสียชีวิต 10 ราย สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ชนิด A จำนวน 9 ราย และชนิด B จำนวน 1 ราย กรมควบคุมโรค คาดว่า ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่จะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม

สำหรับ "ไข้หวัด" สามารถติดต่อกันได้ผ่านทางเดินหายใจ หรือสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อไวรัสติดอยู่แต่อาการของ "โรคไข้หวัดใหญ่" นั้นจะรุนแรงกว่ากรณีมีอาการหนักอาจต้องเข้าโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้เลย แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า อาการของโรคไข้หวัดที่เป็นอยู่คือ ไข้หวัดธรรมดา หรือ ไข้หวัดใหญ่ 

ไข้หวัดธรรมดา คือ อะไร

ไข้หวัดธรรมดา (Common cold) สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งไวรัสที่ก่อให้เกิดอาการมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด เช่น กลุ่มไรโนไวรัส (Rhinoviruses) และโคโรนาไวรัส (Coronaviruses) เป็นโรคที่พบได้บ่อยมากโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว ติดต่อกันได้ง่ายผ่านทางการสัมผัสเชื้อโรค การไอ จาม จึงทำให้หลายคนสามารถป่วยเป็นโรคหวัดได้หลายครั้งใน 1 ปี

อาการไข้หวัดธรรมดา

เมื่อเชื้อเข้าสู่จมูกและคอจะทำให้มีอาการคัดจมูก จาม มีน้ำมูก เจ็บคอ มีอาการไอตามมา ผู้ป่วยจะรู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อย ปวดศีรษะเล็กน้อย อาจไม่มีไข้ หรือมีไข้แต่ไม่สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส

อาการโดยทั่วไปมักไม่รุนแรง แพทย์จะให้ยารักษาตามอาการ เช่น ให้ยาลดน้ำมูก ยาลดไข้ หากพักผ่อนอย่างเพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ รักษาร่างกายให้อบอุ่น และกินยาตามเวลา อาการจะหายได้ภายใน 1 สัปดาห์

ไข้หวัดใหญ่ คือ อะไร  

สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส Influenza ซึ่งเป็นไวรัสกลุ่มเดียวกับไข้หวัดนก มักพบผู้ป่วยในหน้าหนาว แต่ก็เป็นโรคที่พบได้ตลอดทั้งปีทั้งนี้ ไข้หวัดใหญ่มีอยู่ด้วยกันหลายสายพันธุ์ อาทิ

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A (Influenza A) :

เป็นสายพันธุ์ที่รุนแรงที่สุดและสามารถแพร่ระบาดไปได้ทั่วโลกโดยเชื้อไวรัสสายพันธุ์ A จะแบ่งความแตกต่างออกเป็นอีกหลายชนิดย่อย ๆ โดยแบ่งตามชนิดของโปรตีนของไวรัส คือ H (Hemagglutinin) และ N (Neuraminidase) โดยชนิดย่อยของไข้หวัดสายพันธุ์ A ที่เคยแพร่ระบาดก็อย่างเช่น ไข้หวัดสุกร H3N2, ไข้หวัดนก, ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H1N1

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B (Influenza B) :

เป็นสายพันธุ์ที่ระบาดเฉพาะในภูมิภาคและโดยส่วนใหญ่ก็มักจะระบาดในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว เนื่องจากเชื้อไวรัสชนิดนี้สามารถเจริญเติบโตได้ดีในอากาศเย็น มีอาการรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์ A แต่รุนแรงกว่าไข้หวัดใหญ่ทั่วไป และสายพันธุ์ C ทั้งนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วอาการก็จะคล้าย ๆ กับอาการของไข้หวัดใหญ่ทั่วไป และสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ C (Influenza C) : 

เป็นสายพันธุ์ที่พบได้น้อยมาก อีกทั้งยังมีอาการที่ไม่รุนแรงและไม่พบการระบาด จึงทำให้บางครั้งไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์นี้ไม่ถูกนับรวมเป็นชนิดของโรคไข้หวัดใหญ่ค่ะ

อาการไข้หวัดใหญ่

ไข้หวัดใหญ่จะมีอาการรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดามากและอาจทำให้เสียชีวิตได้ สำหรับ "ไข้หวัดธรรมดา" จะมีอาการป่วยแบบค่อยเป็นค่อยไป ตรงกันข้ามหากเป็น "ไข้หวัดใหญ่" อาการจะรุนแรงเฉียบพลันภายใน 1 วัน โดยเริ่มจากมีไข้หรือมีไข้หนาวสั่น เจ็บคอ มีน้ำมูกใส ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมากโดยเฉพาะบริเวณหลัง ต้นขา ต้นแขน ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ในเด็กอาจอาเจียนและท้องเสียร่วมด้วย