สธ.เตือนคนขาย-คนเสพ "ยาบ้า" กลับใจ หลังปรับเป็น 1 เม็ดเข้าข่าย ผู้เสพ-ผู้ขาย

12 มิ.ย. 2567 | 12:15 น.
อัปเดตล่าสุด :12 มิ.ย. 2567 | 12:18 น.
669

สธ. เอาจริง เตือนคนขาย -คนเสพ "ยาบ้า" กลับตัวกลับใจหลังที่ประชุม ครม.เห็นชอบแก้กฏกระทรวงครอบครองยาบ้าจาก 5 เม็ดเป็น 1 เม็ดเข้าข่าย "ผู้เสพ-ผู้ขาย" ย้ำประเทศไทยต้องปลอดยาเสพติด 

12 มิถุนายน 2567 นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 เห็นชอบอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่า มีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ โดยแก้ไขจากเดิมที่กำหนดยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ด น้ำหนักสุทธิไม่เกิน 500 มิลลิกรัม เป็นไม่เกิน 1 เม็ด น้ำหนักสุทธิไม่เกิน 100 มิลลิกรัม

กล่าวคือ ถ้าครอบครองยาบ้าเกินกว่า 1 เม็ดและน้ำหนักสุทธิเกิน 100 มิลลิกรัมให้ถือว่า มีไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยหลังจากนี้เมื่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนามในกฎกระทรวง นำไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อใด วันรุ่งขึ้นก็จะมีผลบังคับใช้ทันที

นางสาวตรีชฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า การสันนิษฐานให้ผู้ครอบครองยาบ้าไม่เกิน 1 เม็ดและน้ำหนักสุทธิ์ไม่เกิน 100 มิลลิกรัมเป็นผู้ครอบครองไว้เพื่อเสพ ส่วนที่เกินจากนี้ให้ถือว่าครอบครองไว้เพื่อจำหน่าย เป็นการปรับมาตรการทางกฎหมายให้เข้มข้นซึ่งเป็นข้อสั่งการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้กระทรวง สธ.ดำเนินการแก้ไขกฎกระทรวง

ต่อมากระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาทบทวนกฎกระทรวง กระทั่ง ครม.มีมติเห็นชอบดังกล่าว เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดประเภทยาบ้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมายและหลักการ "เปลี่ยนผู้เสพ เป็นผู้ป่วย" โดยผู้เสพจะถูกนำตัวไปบำบัดรักษา ให้หายเป็นปกติกลับไปอยู่กับครอบครัวและญาติพี่น้องต่อไป

 

โฆษก สธ. ฝ่ายการเมืองกล่าวว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง สธ. เดินหนัาตามเปัาประสงค์ของรัฐบาลเพื่อให้ยาเสพติดหมดไปจากประทศไทย สร้างอนาคตเยาวชน เตือนไปถึงผู้ที่กำลังลักลอบผลิตยาบ้า ค้ายาบ้าทั้งรายใหญ่ รายเล็ก รวมทั้งยาเสพติดชนิดอื่น ๆ ด้วย เช่น เฮโรอีน ยาไอซ์ ฯลฯ

ขอให้หยุดได้แล้ว นับจากนี้คนที่มียาบ้าอยู่กับตัวเกิน 1 เม็ดจะถือว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย กฎกระทรวงฉบับนี้ถือเป็นยาแรงเพื่อดำเนินการจัดการยาเสพติดขั้นเด็ดขาด โดยเป็นการทำงานร่วมกับกระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม ปปส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น 

"หลังจากที่กฎกระทรวงฉบับนี้ประกาศใช้ จะทำให้ผู้ที่คิดกระทำความผิดทั้งผู้ค้า-ผู้เสพ เกิดความหวาดกลัวการกระทำความผิด เพราะเป็นการจัดการขั้นเด็ดขาดเหมือนในยุคพรรคไทยรักไทยที่เคยจัดการยาเสพติดสำร็จมาแล้วคืนลูกหลานสู่อ้อมกอดครอบครัว ผู้ค้าเลิกการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะไม่เป็นผลดีกับตัวเอง เพราะหากถูกตำรวจจับติดคุกเสียอนาคต ครอบครัวญาติพี่น้องก็ลำบาก" นางสาวตรีชฎากล่าว