รู้จัก "ไซบูทรามีน" สารลดน้ำหนักอันตรายที่พบในยาลดความอ้วน 

06 มิ.ย. 2567 | 13:00 น.
อัปเดตล่าสุด :06 มิ.ย. 2567 | 13:02 น.

ไซบูทราทีน สารลดน้ำหนักอันตราย เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 1 ถูกนำไปใช้กับอาหารเสริมลดน้ำหนัก ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี ปรับสูงสุด 2 ล้านบาท

กรณีข่าวการตรวจพบ "ไซบูทรามีน" ที่มีรายงานถึงผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดที่ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจพิสูจน์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชื่อดังเมื่อไม่นานมานี้

"ฐานเศรษฐกิจ" ชวนไปทำความรู้จักกับ "ไซบูทรามีน" เกี่ยวกับอันตรายและผลกระทบต่อร่างกายหากมีการรับประทานเข้าไปจะเกิดผลอย่างไรบ้าง รวมถึงบทลงโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนกระทำความผิดทั้งกรณีนำเข้า ส่งออก ครอบครอง รวมถึงบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีไซบูทรามีนเป็นส่วนผสมถือว่า เป็นการกระทำผิด มีโทษจำคุกหรือปรับ 

"ไซบูทรามีน" คืออะไร

ไซบูทรามีน มักถูกนำไปใช้กับอาหารเสริมลดน้ำหนัก ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ลดความอยากอาหาร อิ่มเร็วขึ้น เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง ถูกถอนออกจากตลาดแล้ว

หลังรับประทานยาไซบูทรามีน ยาจะออกฤทธิ์โดยตรงต่อระบบประสาท โดยการเพิ่มสารสื่อประสาทเซโรโทนิน (serotonin) นอร์อีพิเนฟรี (norepinephrine) รวมถึงโดปามีน (dopamine) ซึ่งสารสื่อประสาทเหล่านี้จะออกฤทธิ์ทำให้อารมณ์ดี ต้านการซึมเศร้า และสามารถลดความอยากอาหารได้ สามารถกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย ด้วยฤทธิ์เหล่านี้จึงสามารถนำมาใช้ลดนํ้าหนักได้

ไซบูทรามีน จะมีประสิทธิภาพในการลดนํ้าหนักได้ดีในช่วงแรก คือ ประมาณ 6 เดือนแรกหลังใช้ยาแต่หลังจากนั้นยานี้จะไม่สามารถ ลดนํ้าหนักได้เพิ่มขึ้นจะช่วยเพียงคงนํ้าหนักให้คงที่

ทั้งนี้ เนื่องจากมีรายงานถึงผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ทำให้เกิดผลเสียร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต ในปี 2553 ประเทศในยุโรปได้ประกาศยกเลิกไม่ให้ใช้ยานี้ รวมทั้งในประเทศไทยได้มีการเรียกเก็บยาที่มีสารไซบูทรามีนออกจากท้องตลาดและยกเลิกทะเบียนยาไซบูทรามีนในปี 2553 แต่ยังมีปัญหาการลักลอบใส่ไซบูทรามีนในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยังคงพบอยู่

กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ออกประกาศฯ กำหนดให้ "ไซบูทรามีน" เป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 ตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2561 มีบทลงโทษผู้ที่กระทำความผิด ดังนี้ 

ผู้ใดที่ผลิต นำเข้า หรือส่งออกผลิตภัณฑ์ที่มีไซบูทรามีนเป็นส่วนผสมต้องรับโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี ปรับตั้งแต่ 500,000 - 2 ล้านบาท  

ผู้ใดผลิตเพื่อขาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 7-20 ปี และปรับตั้งแต่ 700,000- 2 ล้านบาท  

ผู้ใดขายมีโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 400,000 - 2 ล้านบาท 

ผู้ใดครอบครองจะมีโทษจำคุก 1-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  

นอกจากนี้กฎหมายยังกำหนดให้ผู้ที่บริโภคก็ถือว่า เป็นความผิดด้วย โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

อาการไม่พึงประสงค์

  • ท้องผูก
  • ปากแห้ง
  • นอนไม่หลับคลื่นไส้
  • หลอดเลือดขยาย
  • ความดันโลหิตสูง
  • หัวใจเต้นเร็ว
  • ใจสั่น สับสน อ่อนแรง ปวดหัว
  • ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ และหลอดเลือด

ข้อมูล กองควบคุมวัตถุเสพติด