ฝุ่น PM 2.5 ส่งผลต่อสุขภาพคนไทยป่วย 10.5 ล้านราย

04 มี.ค. 2567 | 16:35 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มี.ค. 2567 | 16:35 น.

จับตาสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ส่งผลต่อสุขภาพคนไทย สศช. เผยตัวเลขปี 2566 คนไทยป่วย 10.5 ล้านราย ขณะที่ตั้งแต่ 1 ม.ค.– 13 ก.พ.67 พบผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศแล้ว 9.1 แสนราย

สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสสี่ และภาพรวมปี 2566 ประจำเดือนมีนาคม 2567 ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพคนไทยโดยเฉพาะสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จากระบบข้อมูล Health Data Center ของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2566 พบว่า คนไทยป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศมากถึง 10.5 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 3.6

ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ โรคผิวหนังอักเสบ และโรคตาอักเสบ พบมากที่สุดในภาคเหนือ รองลงมา คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และกรุงเทพมหานคร 

เมื่อพิจารณาเป็นรายโรคสำคัญจากฝุ่นละออง PM 2.5 และรายจังหวัดในปี 2566 พบว่า โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 39.1

พบผู้ป่วยมากสุดในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา รองลงมา เป็นโรคมะเร็งปอด เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.7 โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. และโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.8 โดยพบมากสุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป 

สำหรับสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในปี 2567 ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 13 กุมภาพันธ์ 2567 พบผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศแล้ว 9.1 แสนราย โดยภาคเหนือพบผู้ป่วยสูงกว่าพื้นที่อื่น

ดังนั้น จึงต้องเฝ้าระวังป้องกันโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว หากจำเป็นต้องออกจากบ้านให้สวมหน้ากากเพื่อป้องกันฝุ่น 

ทั้งนี้ การป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยมีแนวทางการแก้ไขที่สำคัญ คือ 

1.การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนเพื่อให้เข้าใจถึงผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 

2.การควบคุมปริมาณการปล่อยสารมลพิษทางอากาศจากโรงงานอุตสาหกรรม 

3.การลดการเผาหญ้าหรือขยะมูลฝอยในที่โล่ง

4.การส่งเสริมให้เดินทางโดยระบบขนส่งมวลชน 

นอกจากนี้ต้องสร้างจิตสำนึกให้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมร่วมกันจะเป็นการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศได้อย่างยั่งยืน