บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่เฟส 2 เริ่ม มี.ค.นี้

18 ก.พ. 2567 | 14:15 น.
647

หมอชลน่าน พร้อมลุย "บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่" ระยะที่ 2 หลังประชาชน 4 จังหวัดนำร่องให้การตอบรับล้นหลาม เตรียมขยายพื้นที่ให้บริการใน 8 จังหวัด ตั้งเป้าคิกออฟในเดือนมีนาคมนี้

เกาะติดความคืบหน้านโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ โดยล่าสุด นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวว่า การดำเนินงานระยะที่ 1 ใน 4 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ประชาชนให้การตอบรับอย่างมากเนื่องจากช่วยเพิ่มความสะดวกในการเข้ารับบริการใกล้บ้าน

ขณะเดียวกันก็ช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะงานด้านเอกสาร จากการเชื่อมโยงระบบข้อมูลประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคล (PHR)

สำหรับการเดินหน้าต่อในระยะที่ 2 อีก 8 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี สระแก้ว หนองบัวลำภู นครราชสีมา อำนาจเจริญ และพังงา ซึ่งตั้งเป้าจะคิกออฟในเดือนมีนาคมนี้

ในส่วนของการเชื่อมโยงประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคล (PHR) โรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทั้งโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน 8 จังหวัดรวม 96 แห่งดำเนินการครบถ้วนแล้ว และแต่ละจังหวัดยังมีความก้าวหน้าอย่างมากในหลาย ๆ เรื่อง อาทิ พังงา ประชาชนยืนยันตัวตนแล้ว 52%, นครราชสีมา

บุคลากรทางการแพทย์ยืนยันตัวตน 95% ให้บริการการแพทย์ทางไกลสูงสุด 11,517 ครั้ง, สระแก้ว ออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัลสูงสุด 29,594 ใบ, หนองบัวลำภู ให้บริการนัดหมายออนไลน์สูงสุด 1,489 ครั้ง และจัดบริการส่งยาและเวชภัณฑ์ผ่าน Health Rider ครบทั้ง 6 โรงพยาบาล เห็นได้ว่า 8 จังหวัดนำร่องในระยะที่ 2 ขณะนี้มีความพร้อมในการดำเนินการอย่างมาก

อย่างไรก็ดี ได้กำชับให้เร่งจัดทำข้อมูลเพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนในแต่ละจังหวัดได้เข้าใจเกี่ยวกับการเข้ารับบริการผ่านโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว และสามารถสอบถามรายละเอียดได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยเน้นสื่อรูปแบบอินโฟกราฟิก และช่องทางโซเชียล เช่น Tiktok ในการสื่อสารประชาสัมพันธ์

รวมทั้งออกหน่วยบริการประชาชนในการยืนยันตัวตน Health ID เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงการรักษา และติดตามผลการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรค ในพื้นที่ 4 จังหวัดนำร่อง เพื่อเป็นข้อมูลในการจัดทำแผนการดำเนินงานใน 8 จังหวัดนำร่องต่อไป นพ.ชลน่านกล่าว