พัชรวาท สั่ง “ตรวจจับ-ปรับจริง” รถยนต์ควันดำ ป้องกันฝุ่น PM2.5

20 ม.ค. 2567 | 21:14 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ม.ค. 2567 | 21:24 น.

"พัชรวาท" สั่ง ให้เข้มงวดตรวจจับรถยนต์ควันดำ ลงพื้นที่ “ตรวจจับ ปรับจริง” ระงับการใช้รถ ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5

 

พล ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งการให้เข้มงวดเรื่องการตรวจจับรถยนต์ควันดำ “ตรวจจับ ปรับจริง” เพื่อยับยั้งต้นตอแหล่งกำเนิดที่สำคัญของฝุ่น PM2.5 มอบหมายนายนพดล พลเสน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ติดตามการตรวจสอบตรวจจับและห้ามใช้รถควันดำ ป้องกันฝุ่น PM2.5 โดยการบูรณาการปฏิบัติงานระหว่างกรมควบคุมมลพิษ กรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจจราจร และกรุงเทพมหานคร ณ หน้าสวนจตุจักร ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

พล ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ

นายนพดล กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขฝุ่น PM2.5 พล ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้นโยบายให้ตรวจเข้มแหล่งกำเนิดมลพิษที่ก่อให้เกิดฝุ่น PM2.5 ทุกแหล่ง และได้มีข้อสั่งการให้เข้มงวดเรื่องการตรวจจับรถยนต์ควันดำ “ตรวจจับ ปรับจริง” เพื่อยับยั้งต้นตอแหล่งกำเนิดที่สำคัญของฝุ่นในเมือง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตรวจสอบ

นพดล พลเสน

ห้ามใช้รถควันดำริมเส้นทางจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นประจำทุกวัน โดยกองบังคับการตำรวจจราจร ตั้งจุดตรวจสอบรถควันดำวันละ 14 ชุด ในพื้นที่ 17 สำนักงานเขต (เขตคลองสามวา ดอนเมือง ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา บางขุนเทียน บางเขน บางแค บางนา ประเวศ บางบอน ภาษีเจริญ มีนบุรี ลาดกระบัง สายไหม สะพานสูง หนองแขม หนองจอก) และกรมการขนส่งทางบก จัดชุดผู้ตรวจการตั้งจุดตรวจสอบรถควันดำในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล วันละ 16 ชุด

ควันดำ

สถิติการตรวจสอบตรวจจับและห้ามใช้รถยนต์ควันดำ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 16 มกราคม 2567 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กรมควบคุมมลพิษร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก และกรุงเทพมหานคร เรียกรถตรวจทั้งหมด 30,239 คัน เป็นรถขนาดใหญ่ ได้แก่ รถบรรทุก รถโดยสาร ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 จำนวน 16,994 คัน

พบรถควันดำเกินมาตรฐานและสั่งห้ามใช้ 45 คัน ส่วนรถยนต์ส่วนบุคคล รถกระบะ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 จำนวน 13,245 คัน พบรถยนต์ควันดำเกินมาตรฐานและทำการออกคำสั่งห้ามใช้ยานพาหนะจำนวน 188 คัน รวมรถที่ถูกสั่งห้ามใช้ 233 คัน แก้ไขแล้ว 103 คัน (ร้อยละ 44) โดยอยู่ระหว่างการติดตาม การปฏิบัติตามคำสั่ง สำหรับวันนี้ (19 มกราคม) ณ จุตรวจสอบตรวจจับหน้าสวนจตุจักร เรียกรถตรวจสอบ 52 คัน เป็นรถโดยสารประจำทาง ตาม พ.ร.บ. ขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 จำนวน 26 คัน

ควันดำเกินมาตรฐาน 1 คัน ผู้ตรวจการพ่นห้ามใชั และเปรียบเทียบปรับ 1 คัน รถยนต์ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 จำนวน 26 คัน ควันดำเกินมาตรฐาน 6 คัน พนักงานเจ้าหน้าที่ออกคำสังห้ามใช้ชั่วคราว ให้ไปปรับปรุงแก้ไขภายใน 30 วัน และเจ้าพนักงานจราจร เปรียบเทียบปรับรถควันดำ 6 คัน

นอกจากมาตรการทางกฎหมาย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย กรมควบคุมมลพิษ ได้ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยผู้ประกอบการรถยนต์ จำนวน 9 ราย ได้แก่ TOYOTA ISUZU MITSUBISHI NISSAN MAZDA FORD HONDA SUZUKI และ HINO ดำเนินโครงการ “คลินิกรถ ลดฝุ่น PM2.5” ให้บริการตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์ฟรี

โดยบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และลดค่าน้ำมันเครื่อง ค่าอะไหล่ และค่าแรงเป็นพิเศษ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเจ้าของรถมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขวิกฤตฝุ่นที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ และยังได้ผลักดันให้เกิดการบังคับใช้มาตรฐานคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงยูโร 5 เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ซึ่งมีจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 นายนพดล กล่าว

ห้ามใช้