ฝีดาษวานร ยังแรง สัปดาห์เดียวติดเชื้อเพิ่ม 24 ราย เสียชีวิต 1 ราย

30 ต.ค. 2566 | 13:45 น.

กรมควบคุมโรค เผยผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรเพิ่มต่อเนื่อง สัปดาห์เดียวพบผู้ป่วยติดเชื้อ 24 ราย กทม.มากสุด  9 ราย และมีรายงานผู้ป่วยเอชไอวีติดฝีดาษวานรเสียชีวิต 1 ราย ย้ำกลุ่มเสี่ยงงดมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า หากมีอาการสงสัยให้รีบไปพบแพทย์ตรวจรักษาทันที

สถานการณ์ติดเชื้อโรคฝีดาษวานรในประเทศไทยยังต้องให้ความสำคัญและเฝ้าระวังกันต่อเนื่องต่อไป ล่าสุด นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคฝีดาษวานรในประเทศไทย จากข้อมูล ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2566 พบผู้ติดเชื้อรวม 559 ราย เสียชีวิต 2 ราย เป็นผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง ชาวไทย 503 ราย ชาวต่างชาติ 52 ราย และไม่ระบุสัญชาติ 4 ราย

ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มหลากหลายทางเพศ  474 ราย และรู้ว่า ติดเชื้อ HIV จำนวน 274 ราย คิดเป็นร้อยละ 44.18 กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ กลุ่มอายุ 30-39 ปี จำนวน 241 ราย ตามด้วยอายุ 20-29 ปี จำนวน 172 ราย

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 24 ราย กรุงเทพ 9 ราย เชียงใหม่ และ นนทบุรี จังหวัดละ 3 ราย ภูเก็ต 2 ราย นครปฐม ชลบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี สระบุรี อุดรธานีและอุบลราชธานีจังหวัดละ 1 ราย เสียชีวิต 1 ราย

นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค

ทั้งนี้ มีรายงานผู้ป่วยเอชไอวีติดฝีดาษวานรเสียชีวิต 1 รายล่าสุดว่า เป็นชายไทย อายุ 24 ปี เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีและขาดยามา 3 ปี ระดับเม็ดเลือดขาว CD4 เท่ากับ 3 เซลล์ต่อมิลลิลิตร

เริ่มป่วยตั้งแต่ 25 สิงหาคม 2566 และไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งด้วยอาการไข้ อ่อนเพลีย มีผื่นใบหน้า หลัง มือ บริเวณอวัยวะเพศ ต่อมาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 ได้รับการส่งต่อมารักษาที่สถาบันบำราศบำราศนราดูร เนื่องจากมีอาการรุนแรง คือ ผิวหนังตายบริเวณที่จมูก แผ่นหลัง และนิ้วมือ และมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนที่ผิวหนัง

ผู้ป่วยเอชไอวีรายนี้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง พบการแพร่กระจายของเชื้อฝีดาษวานรไปที่ปอดทำให้เกิดปอดอักเสบ มีโรคติดเชื้อฉวยโอกาสที่เกิดจากเชื้อซีเอ็มวี (Cytomegalovirus; CMV) แม้ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยยา tecovirimat นาน 28 วัน ร่วมกับยาต้านไวรัสเอชไอวี และยารักษาโรคติดเชื้ออื่น ๆ ที่ตรวจพบ แต่ยังมีการตายของเนื้อเยื่อเป็นบริเวณกว้างขึ้น ต่อมามีภาวะไตวายและระบบการหายใจล้มเหลวจนเสียชีวิตในที่สุด

อาการของโรคฝีดาษวานรที่พบบ่อย

  • มีผื่น
  • มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อต่อมน้ำเหลืองโต
  • อาการคัน

การรักษา

หากผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง ไม่มีโรคอื่นร่วมด้วย จะรักษาตามอาการ และสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง มีโรคประจำตัวร่วม เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี จะให้ยาต้านไวรัส Tecovirimat (TPOXX) โดยเร็ว ซึ่งผลการรักษาส่วนใหญ่จะอาการดีขึ้น แต่มีบางรายยที่ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรงจะเสียชีวิต โดยกระทรวงสาธารณสุขกระจายยาต้านไวรัสดังกล่าวไปไว้ที่โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดที่พบการระบาด

อย่างไรก็ดี โรคฝีดาษวานร สามารถป้องกันได้โดยหลีกเลี่ยงการมีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้การติดเชื้อโรคฝีดาษวานร และงดมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า เพื่อป้องกันเองและลดการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น รวมถึงไม่สัมผัสใกล้ชิดแนบเนื้อกับผู้ที่มีผื่น ตุ่มหรือหนอง

แนะนำให้ล้างมือบ่อย ๆ ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น และขอความร่วมมือหน่วยงานสาธารณสุขทุกจังหวัดเฝ้าระวัง และติดตามกลุ่มเสี่ยงพร้อมทั้งสื่อสารให้ความรู้วิธีการป้องกัน หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำในการปฏิบัติตัว สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร. 1422