ชลน่าน ลุยแผน Quick Win ชู 3 แนวทาง ลดปัญหาสุขภาพจิต-ยาเสพติด

วันสุขภาพจิตโลก (The World Federation for Mental Health: WFMH) ซึ่งตรงกับวันที่ 10 ตุลาคมของทุกปี สำหรับประเทศไทยจัดกิจกรรมภายใต้แนวคิด : Mental Health Anywhere เพื่อนแท้มีทุกที่

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเปิดงานวันสุขภาพจิตโลก กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกให้ความสำคัญต่อสุขภาพจิตโดยยกระดับเรื่องของสุขภาพจิตให้เป็นสิทธิมนุษยชนสากล เพื่อตอบรับตามแนวทางขององค์การอนามัยดังกล่าว

• 10 ตุลาคม วันสุขภาพจิตโลก ตะลึง! คนไทยป่วยโรคซึมเศร้าพุ่ง

• เปิดชื่อ 27 จังหวัดนำร่องใช้บัตรประชาชนใบเดียว รักษาได้ ทุกที่ ทุกโรค

กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดเป็นแนวทางเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการให้บริการด้านสุขภาพจิต ภายใต้หัวข้อ Mental Health Anywhere เพื่อนแท้มีทุกที่ได้กำหนดเป็นแผน Quick win 100 วัน ของรัฐบาล 3 เรื่อง ดังนี้ 

1.จัดตั้งศูนย์มินิธัญญารักษ์เพื่อดูแลผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดครบวงจรทุกจังหวัด 

2.จัดตั้งหอผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดในโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ครอบคลุมทุกจังหวัด มีหอผู้ป่วยดูแลซึ่งสอดรับกับความต้องการของประชาชน 

3.มีการจัดตั้งกลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติดในโรงพยาบาลชุมชน รวมถึงการเปิดให้ประชาชนเข้าถึงบริการผ่านช่องทางที่หลากหลายด้วยระบบเทคโนโลยีดิจิทัลให้ประชาชนเข้าถึงได้ผ่านระบบเทคโนโลยีหรือสายด่วน 1667 หรือเดิม 1323 บริการให้คำปรึกษา ประเมิน ตรวจสุขภาพจิต คิดว่า มีความเครียด มีปัญหาด้านสุขภาพจิต สามารถเข้าถึงแหล่งให้ความรู้คำปรึกษาได้โดยจะมีการพัฒนาคิวอาร์โคดต่อสายพูดคุยได้ แอปพลิเคชันต่างๆ แชตคุยกัน เพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้น

รวมทั้งมีการใช้เทเลเมดิซีนจากเดิมใช้ติดตามคนไข้ของรพ.ที่อาการสงบดีแล้วซึ่งจะมีการดำเนินการเพิ่มเติม คือ ออกหน่วยในพื้นที่จะสามารถเชื่อมโยงกับข้อมูลผู้ป่วยในรพ.ได้เลย โดยใช้บัตรประชาชนใบเดียว นำมาเสียบเข้ากับเครื่อง แล้วจะลงแอปพลิเคชันเทเลเมดิซีนให้กับคนไข้ ทำให้สามารถตรวจติดตามคนไข้ได้ โดยระบบมีการเชื่อมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)แล้ว รพ.สามารถส่งเบิกค่าใช้จ่ายได้เลย 

"รัฐบาลเชื่อว่าการมีสุขภาพใจที่ดีและเข้มแข็งจะนำไปสู่การสร้างสุขภาพกาย สุขภาพปัญหา และสุขภาพสังคมที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน"  นายแพทย์ชลน่าน กล่าว 

ด้านนายแพทย์พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสุขภาพจิต ระบุว่า ในวันสุขภาพจิตโลกนี้ ประเทศไทยได้มีการกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนในพื้นที่ และทุกช่วงวัย ให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ พร้อมทั้งกายใจ และสติปัญญา

อีกทั้งยังมีพระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. 2551 และแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2562 กำหนดให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิเข้าถึงการให้บริการสุขภาพจิตโดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยกรมสุขภาพจิตได้เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว และมีแนวคิดที่จะขยายการบริการดูแล ฟื้นฟู สุขภาพจิตผู้ป่วยจิตเวชให้กับประชาชนในพื้นที่ให้ได้รับบริการภายในปี 2567 กรมสุขภาพจิตมีนโยบาย Mental Health Anywhere เพื่อนแท้มีทุกที่ กล่าวคือ มีการจัดตั้งศูนย์มินิธัญญารักษ์เพื่อดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหายาเสพติดทุกจังหวัด มีการจัดตั้งกลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติดในโรงพยาบาลชุมชน รวมถึงการจัดตั้งหอผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดในโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ครอบคลุมทุกจังหวัด ตลอดจนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 

ทั้งนี้ จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก พบว่า 1 ใน 8 คนทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพจิตซึ่งส่งผลต่อปัญหาสุขภาพโดยรวมและการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน ขณะที่สถานการณ์ในประเทศไทยนั้น รายงานจากคลังข้อมูลสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า จำนวนผู้ป่วยจิตเวชมีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะโรคซึมเศร้าที่มีผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นจาก 1,156,734 คนในปี 2564 เป็น 1,240,729 คนในปี 2566