เปิดผลข้างเคียงวัคซีนโควิดที่ต้องพิจารณา ความแตกต่างของแต่ละชนิด

07 ก.ค. 2566 | 11:27 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.ค. 2566 | 11:27 น.

เปิดผลข้างเคียงวัคซีนโควิดที่ต้องพิจารณา ความแตกต่างของแต่ละชนิด อ่านที่นี่มีคำตอบ หมอธีระวัฒน์เผยวัคซีนโควิดเป็นที่ยอมรับกันในประโยชน์ แต่ผลไม่พึงประสงค์ ผลข้างเคียงและแทรกซ้อน เป็นเรื่องที่ปรากฏขึ้นจริง

วัคซีนโควิดเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และบรรเทาอาการยามที่เจบป่วย

อย่างไรก็ดี จนถึงปัจจุบันประเด็นเรื่องของผลข้างเคียงยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าอันตรายแค่ไหน
  
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา (หมอธีระวัฒน์) ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโพสเฟซบุก๊ส่วนตัว (ธีระวัฒน์เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha)โดยมีข้อความเกี่ยวกับวัคซีนโควิด ว่า 

วัคซีนโควิด ผลข้างเคียง ที่ต้องพิจารณา และ ความแตกต่างของแต่ละ  batch ของวัคซีน

หมอธีระวัฒน์ บอกว่า วัคซีนโควิดเป็นที่ยอมรับกันในประโยชน์ ที่ใช้กันทั่วโลกแต่ในขณะเดียวกัน ผลไม่พึงประสงค์ ผลข้างเคียงและแทรกซ้อน เป็นเรื่องที่ปรากฏขึ้นจริง และต้องติดตาม เพื่อประเมิน ผลลัพธ์โดยรวม 

การประเมินประโยชน์และผลข้างเคียงรุนแรงที่เกิดขึ้นมีความจำเป็น โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิดซึ่งเชื้ออ่อนกำลังลงไปมาก

อย่างไรก็ดี มีการเปิดเผยผลข้างเคียงรุนแรงจากวัคซีน mRNA ในเดือนกันยายน 2022 ในวารสารvaccine โดยเป็นข้อมูลจริงที่ได้ระหว่างมีการดำเนินการศึกษาเฟสที่สามในมนุษย์ แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยมาก่อน  จนเมื่อต้องทำตามกฏหมายความโปร่งใสของข้อมูลจึงต้องเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว

จนกระทั่งถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2022 มีการใช้วัคซีนไฟเซอร์ไปใน สหภาพยุโรป เป็นจำนวน 701 ล้านโดสด้วยกัน และมีการรายงานถึงผลข้างเคียง ที่อาจมีส่วนเกี่ยวพัน (suspected adverse effects SAEs) กับวัคซีนเป็นจำนวน 971,021 รายงาน ตามบันทึกของสหภาพยุโรปและพื้นที่เศรษฐกิจของยุโรป 
 

หมอธีระวัฒน์ บอกอีกว่า วัคซีนที่ผลิตแต่ละหลอดที่ใช้สำหรับแต่ละบุคคลนั้นจะถูกผลิตขึ้นมาจากโรงงานเป็นรอบ (batches) โดยมีการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของแต่ละโด๊สอย่างเคร่งครัด

โดยเป็นที่ยอมรับกันว่าไม่ควรมีความผิดเพี้ยนที่เกิดจากการผลิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามเนื่องจากวัคซีนโควิดเป็นการผลิตภายใต้ภาวะฉุกเฉินและต้องมีความเร่งรีบในการผลิตให้ทันตามความต้องการ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าจะมีความแตกต่างกันระหว่าง batch

เปิดผลข้างเคียงวัคซีนโควิดที่ต้องพิจารณา ความแตกต่างของแต่ละชนิด

คณะผู้ศึกษาจากเดนมาร์กจึงได้จับประเด็นนี้และได้รายงานในวารสารของยุโรป Eur J Clin Invest ในปี 2023 

รายงานผลข้างเคียงทั้งหมดที่อาจเกี่ยวพันกับวัคซีน จะบันทึกในฐานข้อมูลของ องค์กรทางการแพทย์ของ เดนมาร์ก Danish Medical Agency (DKMA) ตามลักษณะความรุนแรง ของผลข้างเคียง ตามจำนวนโดสที่ใช้ของวัคซีนไฟเซอร์ และตามแต่ละ batch หรือรอบการผลิต

รายงานต่อ DKMA นั้น จะรวบรวมมาจากทุกแหล่งซึ่งรวมถึงจากแพทย์ จากสถานพยาบาลรวมกระทั่งถึงผู้ได้รับผลกระทบและรายงานจากสมาชิกในชุมชน และเป็น ลักษณะ passive ไม่ใช่ active จึงมีความคลาดเคลื่อน ของข้อมูล ที่อาจมากเกินไปหรือน้อยเกินไป

แตกต่างจาก รายงานของประเทศเกาหลีทั้งประเทศที่ติดตามอุบัติการของกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีน mRNA และรายงานในวารสาร european heart journal โดยที่ลักษณะการรายงานนั้นเป็น active และมีมาตรฐานเข้มข้นกว่า โดยตัวเลขที่ได้นั้นจะต่ำกว่าตัวเลขจริงด้วยซ้ำ 

แต่ชี้ชัดให้เห็นว่า หัวใจอักเสบเกิดขึ้นได้จริง แม้อัตราที่เกิดขึ้นจะเป็นหนึ่งต่อ 100,000 แต่ความรุนแรงถึงขั้นมากจนกระทั่งเข้าโรงพยาบาลเข้าไอซียู จนเสียชีวิต ตายฉับพลัน หรือต้องเปลี่ยนหัวใจนั้น มีได้สูงถึง 20% ของคนที่มีหัวใจอักเสบ

สำหรับรายงานจากประเทศเดนมาร์กนี้ผลข้างเคียงที่อาจเกี่ยวพันกับวัคซีน หรือ SAEs นั้น เป็นไปตามบัญญัติศัพท์เพื่อการควบคุมดูแล (medical dictionary for regulatory activities MedDRA) โดยไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามคำวินิจฉัยทางการแพทย์เสมอไป และอาการในผู้ได้รับวัคซีน สามารถมีได้มากกว่าหนึ่งอาการในแต่ละคน แต่นับรวมเป็นหนึ่งรายงาน

ความรุนแรงของอาการนั้นจัดแบ่งออกเป็น ไม่ซีเรียส ไม่รุนแรง และ แบบมีความรุนแรง ได้แก่ ต้องเข้าโรงพยาบาลหรือทำให้ระยะเวลาของการที่ต้องอยู่โรงพยาบาลนั้น ต้องยืดยาวออกไป รวมกระทั่ง ถึงอาการรุนแรงเกือบถึงขั้นชีวิต หรือมีความพิการถาวรหรือทำให้เกิดมีความพิการแต่กำเนิด จนกระทั่งทำให้เกิดการเสียชีวิต

อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นมีการวิเคราะห์โยงไปถึง batch และ จำนวนโดสที่ได้รับ

ขณะที่สัดส่วน จำนวนผลข้างเคียงที่เชื่อมโยงกับแต่ละ batch ต่อจำนวนของโด๊สในแต่ละ batch จะกลายเป็นอัตราของผล ข้างเคียงSAEs ต่อ 1,000 โด๊ส

และเนื่องจากมีความแตกต่างกันที่เกิดขึ้นในข้อมูลของแต่ละ batch มาก การทบทวนทางสถิติจะเป็นไปตาม log-transformation และตามด้วย non-hierarchical cluster analysis และ general linear model
 
ผลของการรายงานจะสอดคล้องกับคำแนะนำ EQUATOR guidelines ในระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2020 ถึง 11 มกราคม 2022 จำนวนโดสของวัคซีนไฟเซอร์ที่ให้กับประชากรเดนมาร์ก 4,026,575 คน = 10,793,766 โด๊สด้วยกัน และจะอยู่ในวัคซีน 52 batches ต่างๆกัน 

โดยแต่ละ batch ของรอบผลิตจะมีจำนวนตั้งแต่ 2,340 ถึง 814,320 โด๊สรายงานผลข้างเคียงมีจำนวนทั้งหมด 43,496 รายงาน จากคนที่ได้รับผลกระทบเป็นจำนวน 13,635 รายด้วยกัน คิดเป็น 3.19+/-0.03 (mean+/-SEM) SAEs ต่อคน

ในจำนวน 61,847 SAEs ที่สามารถระบุ batch ได้นั้น มี 14,509 รายงาน หรือ 23.5% ที่จัดเป็นรุนแรงและ 579 รายงานหรือ 0.9% ที่เสียชีวิตไป

ข้อมูลที่รวบรวมและวิเคราะห์จากรายงานนี้ถือว่าเป็นรายงานที่มีลักษณะเฉพาะตัว โดยสามารถรวบรวมข้อมูลได้อย่างหมดจด ในประเทศเล็กอย่างเช่นเดนมาร์ก ที่มีการรายงานและรับข้อมูลได้โดยตรงและครบถ้วนกว่า แม้ไม่ทั้งหมดก็ตาม

หมอธีระวัมน์ บอกีอกว่า ผลที่ได้ที่พบว่าอาการและผลข้างเคียง มีความแตกต่างกันมาก และยังขึ้นอยู่กับ แต่ละหลอด โด๊สวัคซีนที่ใช้ ที่อยู่คนละ batch หรือรอบการผลิต  ซึ่งจะแตกต่าง จากสมมุติฐาน หรือความเชื่อเดิม ที่ยึดถือว่า วัคซีนที่ผลิตแต่ละรอบ แม้แต่ละหลอดนั้นจะมีความคงที่และมีความเหมือนกัน

ด้วยเหตุผลดังกล่าว จำนวนหรืออัตราผลข้างเคียงผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์นั้น เมื่อดูจำนวนทั้งหมดแล้ว แม้จะดูเหมือนไม่มาก แต่เมื่อทำการเจาะลึกไปถึงรายงานของผลข้างเคียงที่ส่งตรงจากประชาชน โดยสัมพันธ์กับโด๊สในแต่ละ batch จะเห็นได้ว่ามีอัตราสูงขึ้นอย่างมากมาย เช่น  batch EJ6134 จะมีผลแทรกซ้อนข้างเคียงถึงหนึ่งต่อ 20 นั่นก็คือ 20 รายจะได้รับผลกระทบหนึ่งราย

ขณะที่ batch EW6126 จะได้รับผลกระทบหนึ่งต่อ 1000 ราย ลักษณะของข้อมูลที่ได้รับจากการวิเคราะห์นี้ ไม่เคยปรากฏมาก่อนทั้งๆที่ประเทศเดนมาร์ก หรือประเทศอื่นในสหภาพยุโรป เอง

ทั้งๆที่คุณภาพของวัคซีนจะมีการติดตามเฝ้าระวังโดยหน่วยงานและตามมาตรฐาน guideline ที่ระบุ official Control Authority Batch release (OCABR) 

ลักษณะของการตรวจสอบและเฝ้าระวังในลักษณะนี้ไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่ก่อนที่วัคซีนจะออกสู่ท้องตลาดและเมื่อมีการใช้ทั่วโลกแล้วด้วยซ้ำ ลักษณะความเบี่ยงเบนของวัคซีนในแต่ละ batch จะส่งผลในการพิจารณาว่า ต้องเป็นอีกประเด็นหนึ่งในการติดตามผลไม่พึงประสงค์จากวัคซีน

นอกจากการประเมินตามปกติที่ว่า คนที่ได้รับวัคซีนกลุ่มใดจะเกิดอันตรายมากที่สุดด้วย เพราะเป็นปัจจัยเนื่องจากความแตกต่างของวัคซีนด้วย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนที่ได้รับวัคซีนอย่างเดียว

วัคซีนมีจุดประสงค์เพื่อที่จะป้องกันโรค ป้องกันการแพร่เชื้อ ป้องกันการติด ป้องกันอาการหนักและการตาย และต้องไม่เกิดปัญหาสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีน และท้ายสุดต้องคำนึงถึงสถานการณ์ของโรคนั้นว่า ยังมีความรุนแรงเข้มข้นเท่าใดที่จะต้องเสี่ยงต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นจากวัคซีนเอง ที่ต้องทราบอย่างถ่องแท้