อึ้ง "มะเร็งตับและท่อน้ำดี" ภัยเงียบคร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด 

31 มี.ค. 2566 | 03:15 น.

"มะเร็งตับและท่อน้ำดี" ภัยเงียบคร่าชีวิตคนไทย พบมากที่สุดในเพศชายและอันดับ 3 ในเพศหญิง ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบชนิดบีตั้งแต่เด็กและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค

จากกรณีการเสียชีวิตของ นายวิทยา เจตะภัย หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ "ถนอม สามโทน" หลังจากเข้าการรักษาตัวจากโรคมะเร็งตับนั้น จากข้อมูลทะเบียนมะเร็งประเทศไทย ปี 2561 ระบุว่า มะเร็งตับและท่อน้ำดีเป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนไทยมากเป็นอันดับ 1 ของมะเร็งทั้งหมดที่พบในไทย

อย่างไรก็ดี มะเร็งตับ เป็นโรคที่ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบชนิดบี ไม่รับประทานปลาน้ำจืดดิบ รวมถึงการปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพ 

นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยมะเร็งตับและท่อน้ำดีถือเป็นมะเร็งที่พบเป็นอันดับ 1 ในเพศชายและอันดับ 3 ในเพศหญิง

ทั้งนี้ จากข้อมูลทะเบียนมะเร็งประเทศไทย ปี 2561 พบว่า มีผู้ป่วยมะเร็งตับ รายใหม่ 22,213 คนต่อปี ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 15,650 คนต่อปี (Cancer in Thailand Vol.X (2016-2018) สถาบันมะเร็งแห่งชาติและสถิติสาธารณสุข ปี 2564)

นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์

มะเร็งตับที่พบมากในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ มะเร็งของเซลล์ตับและมะเร็งท่อน้ำดีตับ พบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ

สาเหตุของมะเร็งตับ

ส่วนมากเกิดจากการเป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบชนิดบี ส่วนสาเหตุของมะเร็ง ท่อน้ำดีเกิดจากพยาธิใบไม้ตับร่วมกับการรับประทานอาหารที่มีดินประสิว (ไนเตรท) และไนไตรท์ เช่น ปลาร้า ปลาจ่อม ปลาส้มแหนม ฯลฯ

นอกจากนี้การดื่มสุราเป็นประจำ การรับสารพิษอะฟลาทอกซินที่เกิดจากเชื้อราบางชนิดที่พบในอาหารประเภทถั่ว ข้าวโพด พริกแห้ง รวมถึงไวรัสตับอักเสบชนิดซีก็เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งตับได้

นายแพทย์ชัยรัตน์ บุญเฉลียว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งตับและท่อน้ำดี สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้ป่วยมะเร็งตับและท่อน้ำดีแต่ละรายอาจมีการแสดงอาการแตกต่างกันซึ่งโดยทั่วไปมักไม่มีอาการในระยะแรก

อาการส่วนใหญ่ที่พบ

  • แน่นท้องท้องอืดท้องเฟ้อเป็นประจำ
  • อ่อนเพลีย
  • น้ำหนักลด
  • ปวดหรือเสียดชายโครงขวา อาจคลำพบก้อนในช่องท้อง
  • ตัวเหลืองตาเหลือง
  • ท้องโต
  • มีอาการบวมบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง เป็นต้น

หากมีอาการเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย เช่น การตรวจเลือดดูความผิดปกติการทํางานของตับ การตรวจระดับอัลฟาฟีโตโปรตีน การอัลตราซาวด์เพื่อดูก้อนที่ตับ การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็ก เป็นต้น

การรักษามะเร็งตับและท่อน้ำดี

มีหลายวิธีซึ่งจําเป็นต้องประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย เนื่องจากมีปัจจัยที่ต้องคํานึงหลายประการ

การป้องกันโรค

  • ทำได้โดยการให้วัคซีนไวรัสตับอักเสบชนิดบีในเด็กแรกเกิดทุกคน
  • ไม่รับประทานปลาน้ำจืดดิบ
  • ปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพ
  • รับประทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง เช่น อาหารที่อาจปนเปื้อนสารอะฟลาทอกซิน อาหารที่มีดินประสิว และอาหารหมักดอง เป็นต้น

หากสงสัยว่า มีความเสี่ยงต่อมะเร็งตับและท่อน้ำดี ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคตับอักเสบหรือท่อน้ำดีอักเสบเรื้อรัง ควรรับการตรวจหามะเร็งอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงทีและลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับหรือมะเร็งท่อน้ำดีได้

 

แนวทางการป้องกันมะเร็งตับและท่อน้ำดี