"น้ำมะพร้าว"ทดแทนน้ำตาลได้หรือไม่ กินยังไงให้ถูกวิธี อ่านเลย

น้ำมะพร้าวไม่มีใครที่ปฏิเสธว่าเป็นของที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย 

แต่ประเด็นหนึ่งที่สำคัญที่ได้รับความสนใจอย่างมากก็คือ สามารถทดแทนการกินน้ำตาลได้หรือไม่

นพ.จิรรุจน์ ชมเชย กุมารแพทย์เชี่ยวชาญโรคระบบหายใจ กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Jiraruj Praise โดยมีข้อความระบุว่า 

"น้ำมะพร้าว" มีสารอาหารมากมาย กินเป็นประจำ ทดแทนการกินน้ำตาลได้ไหม ?

หมอจิรรุจนื ระบุว่า คำถามนี้ อยู่ในหัวตั้งแต่มาศึกษาเรื่อง การปรับการกิน 

เป็นความจริง มะพร้าว (เนื้อและน้ำ) มีสารอาหารหลายอย่าง ครบทั้งโปรตีน คาร์บ ไขมัน แร่ธาตุ มีการศึกษาชัดเจน แต่.... อีกแล้ว 

"น้ำมะพร้าว" มีการศึกษาถึง สารอาหารต่างๆในนั้น แล้ว

มีศึกษาทั้ง มะพร้าวอ่อน ไปจนถึงมะพร้าวห้าว(ไปขายสวน) และก็พบว่า... 

ใน "น้ำมะพร้าว" ย้ำว่า น้ำมะพร้าว ไม่ว่าจะแก่ จะอ่อน คุณจะได้น้ำตาลไปแน่ๆ

มะพร้าวอ่อนๆ เจอ ฟรุกโตสเยอะหน่อย  ส่วนมะพร้าวแก่ๆ จะเจอซูโคสมากหน่อย 

อันนี้เป็นกลไกลตามธรรมชาติของเอนไซม์ invertase ในผลไม้ 

แต่ซูโคส เวลาเข้าร่างเรา มันก็ย่อยได้ กลูโคส+ฟรุกโตส อยู่ดี 

ส่วนปริมาณก็ตามภาพ คือ มะพร้าวอ่อน จะมีฟรุกโตสราวๆ 2-2.8 กรัม/100 ซีซี 
ก็ราวๆ น้ำตาล 1 ช้อนชา แต่อันนี้ได้เต็มๆเหมือนน้ำตาล เพราะคือ "น้ำ" ไม่มีกากใยอะไร ตรึงไว้บ้าง 

หมอจิรรุจน์ ระบุอีกว่า มาโพสต์แบบนี้ไม่ได้จะมาห้ามกินน้ำมะพร้าว แต่อยากให้ระวัง

เพราะมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่า น้ำมะพร้าวมีแต่เรื่องดี โดยที่ไม่พูดให้หมด

โดยเฉพาะ คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ บางท่านเสี่ยงเบาหวานจากการตั้งครรภ์อยู่แล้ว 

ยังซัดน้ำมะพร้าวทุกวัน เพราะมีความเชื่อบางอย่างที่เราอาจจะเคยได้ยิน ว่าจะดีกับเด็ก

ซึ่งนั่นอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เบาหวานจากการตั้งครรภ์

ควบคุมได้ยากขึ้น ... อันนี้ พึงระวัง 

ส่วนคนที่ อ้วน และกำลัง พาตนเองเข้าสู่การจัดการระบบเผาผลาญ

ส่วนตัวแล้วแนะนำว่า เบาได้เบา หยุดได้หยุดไปก่อน  

ส่วนเนื้อมะพร้าว กินไปเถอะไขมัน กับ โปรตีนที่มีไม่ได้เลวร้าย

น้ำมันมะพร้าว ก็ไม่ได้ห้าม ไว้จะมาคุยในครั้งต่อๆ ไปว่า

น้ำมันมะพร้าวมีประโยชน์อย่างไร 

มะพร้าวเป็นอาหารธรรมชาติ น้ำมะพร้าวก็มาจากธรรมชาติ ทำไมจะมีโทษละหมอ

ลูกมะพร้าว ธรรมชาติไม่ได้ออกแบบมาให้เรากิน มิเช่นนั้น ลูกคงไม่ไปเกิดสูงขนาดนั้น

และลูกมะพร้าวก็มีหน้าที่ของเขานั่นคือ การขยายพันธุ์ของพวกเขา 

มนุษย์เราต่างหาก ที่ไปค้นพบ และเรียนรู้ที่จะกิน แต่ในยุคโบราณเราก็ไม่ได้มีมะพร้าวกินกันตลอดปี กินกันง่ายๆ แบบเดินห้างก็มี บรรจุขวดแพคขาย ปอกพร้อมดื่มแบบนี้  

ที่มาพูดแบบนี้ ไม่ได้มาชวนระแวง หรือให้ร้ายมะพร้าว แต่คิดว่า 

ก่อนเราจะปักใจเชื่อว่าอะไรดี เราต้องลงไปหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์

และต้องเชื่อมโยงกับความรู้ในปัจจุบัน ก่อนที่จะสรุปอะไร

หมอจิรรุจน์ ระบุอีกว่า จะไม่มานั่งเล่าว่ามีงานวิจัยบอกว่า ศึกษากลุ่มคนกินน้ำมะพร้าวแบ่งออกเป็นกี่กลุ่ม ได้ประโยชน์อะไร มีค่าทางสถิติเท่าไหร่ เพราะเอาจริงๆ งานวิจัยอะไรทำนองนี้ในอาหาร "ควบคุมตัวแปรยาก" 
 
ที่ควรจะเป็นคือ คุณต้องเอาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน มาดูเลยว่ามีอะไร และสิ่งที่มีนั้น มีวิทยาศาสตร์อะไรรองรับบ้าง

น้ำมะพร้าว แม้จะเป็นของธรรมชาติ แต่อะไรก็ตามถ้ามากไป โดยไม่รู้เท่าทัน 
ย่อมส่งผลเสียได้เสมอ