วัคซีนโควิดคืออาวุธสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อโควิด 19 โดยปัจจุบันมีมากกว่า 1 ชนิดให้เลือก ซึ่งเรียกกันว่าเป็นวัคซีนรุ่นที่ 1
อย่างไรก็ดี ล่าสุดยังมีการพัฒนา "วัคซีนโควิด" รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิดสายพันธุ์ใหม่
น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
หลังจากที่เราได้มีวัคซีนรุ่นที่ 1 ซึ่งผลิตจากไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่น ได้ใช้มาตั้งแต่ปลายปี 2563
และสามารถรับมือป้องกันการติดเชื้อในช่วงแรกได้ดีมาก ต่อมารับมือกับการติดเชื้อโอมิครอนได้ลดลง แต่ยังสามารถลดความรุนแรงและการเสียชีวิตได้ดีปานกลางนั้น
จึงได้มีการเร่งพัฒนาวัคซีนรุ่นที่สอง หรือชนิด 2 สายพันธุ์ โดยใช้ไวรัสอู่ฮั่น แล้วเติมด้วยไวรัสโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.1
หมอเฉลิมชัย บอกด้วยว่า ช่วงแรก ผลการศึกษาได้ผลดีขึ้นเล็กน้อย และยุติการผลิตเนื่องจากไวรัส BA.1 ได้สูญพันธุ์ไป
ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นเติมด้วยไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5 และขณะนี้วัคซีนรุ่นที่สองชนิด 2 สายพันธุ์ก็เป็นอู่ฮั่นบวกกับโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5
ทั้งนี้ การศึกษาในช่วงแรกของสหรัฐอเมริกา พบว่าประสิทธิผลของวัคซีนไม่แตกต่างจากรุ่นที่หนึ่ง
และต่อมามีรายงานเพิ่มเติมว่า ถ้าฉีดวัคซีนรุ่น 2 สายพันธุ์ ห่างจากเข็มก่อนหน้านาน 3 เดือน จะมีภูมิคุ้มกันขึ้นสูงกว่ารุ่น 1 สายพันธุ์ 20-31%
แต่ถ้าฉีดรุ่น 2 สายพันธุ์ ห่างจากเข็มก่อนหน้าเป็น 8 เดือน ภูมิคุ้มกันขึ้นสูงกว่ารุ่น 1 สายพันธุ์ 43-56%
ทำให้มีคนรู้สึกผิดหวังกับวัคซีนชนิด 2 สายพันธุ์ และได้มีคำแนะนำว่า
เมื่อถึงเวลาฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ไม่ต้องรอวัคซีนชนิด 2 สายพันธุ์ ให้ฉีดชนิด 1 สายพันธุ์ได้เลย
ล่าสุดมีรายงานการศึกษาของอิสราเอล พบว่าวัคซีนชนิด 2 สายพันธุ์ ช่วยลดการป่วยหนักต้องนอนโรงพยาบาลลงได้ 81% และสามารถลดการเสียชีวิตลงได้ 86%
กล่าวโดยสรุป
1.วัคซีนป้องกันโควิดรุ่นใหม่ หรือรุ่นที่สองหรือ 2 สายพันธุ์ ประกอบด้วยไวรัสสายพันธุ์ใหม่อู่ฮั่นรวมกับโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5
2.รายงานการศึกษาอย่างน้อย 3 รายงาน ให้ผลที่แตกต่างกัน
จึงต้องรอการศึกษาเพิ่มเติมที่จะทยอยออกมาต่อไป