"หมอธีระวัฒน์" เตือนเครียดสะสมเสี่ยงสูงเป็นอัมพฤกษ์ เพราะอะไร อ่านเลย

29 ก.ย. 2565 | 12:55 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ย. 2565 | 19:55 น.

"หมอธีระวัฒน์" เตือนเครียดสะสมเสี่ยงสูงเป็นอัมพฤกษ์ เพราะอะไร อ่านเลยที่นี่มีคำตอบ หลังมีหลักฐานชัดจากรายงานในวารสารของโรคสมองและระบบประสาท

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา (หมอธีระวัฒน์) ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว (ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha)โดยมีข้อความว่า

 

เครียดสะสมเสี่ยงสูงต่ออัมพฤกษ์

 

เราพูดกันมาแต่โบราณว่าอย่าเครียดจะไม่ดีต่อสุขภาพ จนกระทั่งเริ่มมีหลักฐานชัดๆ เช่น รายงานในวารสารของโรคสมองและระบบประสาท (JNNP) ตั้งแต่ปี 2555

 

ลงบทรายงานตอกย้ำผลสะสมของความเครียด โดยศึกษาผู้ป่วยที่มีอัมพฤกษ์เส้นเลือดผิดปกติซึ่ง 90% เป็นตัน 

 

ที่เหลือเป็นแตก ทั้งหมดเป็นจำนวน 150 ราย อายุ 18-65 ปี 

 

และเทียบกับเพื่อนบ้านละแวกเดียวกันที่มีอายุใกล้เคียง และประเมินลักษณะของสถานะทางสังคม สุขภาพและโรคประจำตัว 
 

ตลอดจนดัชนีวัดความเครียด ลักษณะของพฤติกรรม ปฏิกิริยาตอบโต้กับความเครียด นิสัย การใช้ชีวิต 

 

ซึ่งรวมถึงการบริโภคอาหารชนิดต่างๆ ของหวาน ปริมาณการสูบบุหรี่ สุรา ภาวะสุขภาพของร่างกาย หัวใจและการเต้นของหัวใจ เป็นต้น 

 

ผลที่ได้เมื่อตัดตัวแปรต่างๆออก พบว่า พฤติกรรมนิสัยชอบเครียด 
ลักษณะของการเป็นคนชนิด A ทะเยอทะยาน เจ้าระเบียบ จู้จี้จุกจิก จัดแบ่งตารางชีวิตเวลาเป็นระบบ 

 

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา

หรือเรียกง่ายๆว่า “บ้างาน” (workaholic) หงุดหงิดง่ายๆเมื่อไม่ได้ดังใจ สติแตกเมื่อไม่สมประสงค์ 

 

มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคเส้นเลือดสมอง และเป็นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง 

 

ลักษณะดังกล่าวต่างกับชนิด B แบบฟ้ากับเหว โดยที่ B จะเรื่อยเฉื่อย ทำงานสำเร็จก็ดีใจ ไม่สำเร็จก็ไม่ว่า ไม่ตีโพยตีพาย แต่งานการไม่ประสงค์ก้าวหน้า 
 

การเป็นคนชนิด A ดำรงชีวิตเร่งรีบ แข่งกับเวลามีสิทธิตายอนาถสูงขึ้น 

 

นอกจากการที่เป็นคนชนิด A แล้ว ภาวะของสภาวะแวดล้อมซึ่งก่อให้เกิดความบีบคั้นทางอารมณ์และจิตใจ 

 

ก็ยังคงเป็นปัจจัยหลักด้วยที่ทำให้เกิดความเครียดสูง และตามด้วยการเกิดโรค

 

และหลังจากรายงานนี้มีการศึกษาทยอยตามกันมา จนเป็นที่ยอมรับว่าความเครียดเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอัมพฤกษ์ได้