ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana ระบุว่า
งานวิจัยที่เพิ่งตีพิมพ์ในวารสาร JAMA พบว่า แม่ลูกอ่อนที่อยู่ในช่วงให้นมลูก ถ้าไปได้รับวัคซีน mRNA
ไม่ว่า Moderna หรือ Pfizer มีโอกาสพบวัคซีนปนออกมาจากน้ำนมด้วย
โดยการศึกษานี้ให้คุณแม่ที่เพิ่งไปรับวัคซีนมาภายใน 1 ชั่วโมงถึง 5 วันหลังฉีดวัคซีน
แล้วเก็บตัวอย่างน้ำนมมาตรวจหาวัคซีนด้วยวิธี RT-PCR
ทีมวิจัยพบว่า ตัวอย่างน้ำนมของคุณแม่หลายท่านสามารถตรวจพบวัคซีนปลดปล่อยออกมาได้
นานสุดที่ 45 ชั่วโมงหลังได้รับวัคซีน หลังจาก 48 ชั่วโมงไปไม่สามารถตรวจพบได้
โดยวัคซีนที่ออกมากับน้ำนมจะอยู่ในส่วนที่เรียกว่า extracellular vesicles
คล้ายๆกับถุงเก็บ mRNA ที่ปล่อยออกมานอกเซลล์ในต่อมน้ำนม และปนออกมาพร้อมกับน้ำนม
ข้อมูลนี้น่าสนใจตรงที่ว่า หลายๆคนเชื่อว่าวัคซีนที่ฉีดเข้ากล้ามเนื้ออาจจะไม่ได้ไปไหนไกล
คงเดินทางไปกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวในบริเวณต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณใกล้ตำแหน่งที่ฉีดวัคซีน
และ mRNA อาจจะอยู่ในร่างกายไม่นานเพราะเสื่อมสลายได้ง่ายกว่าวัคซีนชนิดอื่น
แต่จากข้อมูลชุดนี้ทำให้เห็นว่า วัคซีนไปได้ไกลกว่าที่คาด จากกล้ามเนื้อแขนสามารถส่งต่อมาที่เซลล์ในต่อมน้ำนมของแม่ได้
ซึ่งอาจจะส่งมาทางกระแสเลือด หรือน้ำเหลืองผ่านระบบนำส่งของวัคซีน
และอย่างน้อยอยู่ในร่างกายได้เกือบ 48 ชั่วโมง
การศึกษานี้ไม่ได้ระบุอะไรเกี่ยวกับผลของ mRNA vaccine ที่ป้อนให้เด็กทารกผ่านทางน้ำนมในช่วงที่มีการปนของวัคซีนอยู่
แต่ผู้เขียนให้ข้อระมัดระวังไว้ว่า คุณแม่ที่อยู่ในช่วงให้นมลูกอาจจะงดให้นมจากเต้าโดยตรงภายใน 48 ชั่วโมงหลังฉีดวัคซีน
เพื่อเป็นการป้องกันผลจากการับวัคซีนที่ปนออกมาต่อเด็กน้อย