สวิสจะทำลายวัคซีน Moderna ถึง 10.3 ล.โดส มูลค่ากว่า 1 หมื่นล. เพราะอะไร อ่านเลย

26 ก.ย. 2565 | 07:49 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ก.ย. 2565 | 14:49 น.
1.8 k

สวิสจะทำลายวัคซีน Moderna ถึง 10.3 ล.โดส มูลค่ากว่า 1 หมื่นล. เพราะอะไร อ่านเลยที่นี่มรีคำตอบ หมอเฉลิมชัยเผยข้อมูลข่าวจากนครเจนีวา

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

น่าเสียดาย !! สวิสจะทำลายวัคซีน Moderna มากถึง 10.3 ล้านโดส มูลค่า 10,000 ล้านบาท

 

วันนี้มีข่าวจากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า ทางการสวิสจำเป็นจะต้องทำลายวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA ของบริษัท Moderna จำนวนมากถึง 10.3 ล้านโดส เนื่องจากหมดอายุแล้ว

 

กระทรวงสาธารณสุขสวิตเซอร์แลนด์บอกว่าทางการสวิสไม่มีทางเลือก  จำเป็นต้องทำลายวัคซีนดังกล่าวทิ้งทั้งหมด ซึ่งได้หมดอายุไปแล้วเมื่อ 21 กันยายน 2565

 

โดยส่วนแรกนั้น จำนวน 2.5 ล้านโดสเก็บไว้ที่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เอง และส่วนที่สองอีก 7.8 ล้านโดส เก็บอยู่ที่ประเทศเบลเยียม

ทั้งนี้สวิสเองซึ่งมีประชากร 8.7 ล้านคน ได้มีการฉีดวัคซีนครบถ้วนถึง 70% ไปแล้ว

 

เหตุของการที่มีวัคซีนหมดอายุจำนวนมากดังกล่าว เนื่องมาจากทางการสวิสได้เร่งจัดซื้อจัดหาวัคซีนโควิดอย่างเร่งด่วนในช่วงปีที่แล้ว ท่ามกลางการแข่งขันจองวัคซีนกันอย่างมากมายทั่วโลก

 

ในที่สุด สวิสก็สามารถจองวัคซีนได้สำเร็จ แต่เกินจำนวนที่ต้องใช้ไปมาก  ทำให้มีวัคซีนเหลือจำนวนดังกล่าว

 

สวิสจะทำลายวัคซีน Moderna ถึง 10.3 ล.โดส

 

ที่สำคัญที่ทางการสวิสไม่ได้แถลงให้เหตุผลในครั้งนี้ คือเหตุใดวัคซีนซึ่งทราบการหมดอายุล่วงหน้าแน่นอนอยู่แล้ว จำนวนนับ 10 ล้านโดสดังกล่าว

 

จึงไม่ได้มีการประสานบริจาคหรือมอบให้กับประเทศที่ขาดแคลนวัคซีน เช่นประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิก และทวีปแอฟริกา ซึ่งมีหลายประเทศได้ทำการบริจาคมาแล้ว

เป็นอีกหนึ่งกรณีตัวอย่าง ของความเหลื่อมล้ำในระดับประเทศ ที่ประเทศร่ำรวยก็จะเข้าถึงทรัพยากรสิ่งของต่างๆ เช่น วัคซีนได้รวดเร็วและได้มาก จนกระทั่งเหลือทิ้ง ในขณะที่ประเทศยากจนยังขาดแคลนที่จะต้องฉีดวัคซีนแบบเดียวกัน

 

ไม่แตกต่างกับเรื่องความเหลื่อมล้ำอื่นๆในระดับประเทศ และเรื่องความเหลื่อมล้ำในระดับปัจเจกบุคคล ที่พบเห็นกันอยู่ดาษดื่นทั่วไป และเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน จนต้องเรียกว่าชั่วนาตาปีกันเลยทีเดียว