เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกสังคมออนไลน์พอสมควร เมื่อฝ่ายการเมือง “รักชนก ศรีนอก” สส.พรรคประชาชน ออกมาประโคมข่าว ตั้งข้อสังเกตถึงสิทธิรักษาพยาบาลของ “ประกันสังคม” ไม่เท่า “สิทธิบัตรทอง” พร้อมกับตั้งคำถามมากมาย อาทิ ทำไมสิทธิประกันสังคมด้อยกว่าสิทธิบัตรทอง ,เสียเงินสมทบทุกเดือน แต่ได้สิทธิไม่เท่าบัตรทอง , ยกเลิกประกันสังคมหรือไม่ ฯลฯ
คำถามค้างคาใจเหล่านี้ ถูก “บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) แจกแจงให้ผู้ประกันตนและสังคมให้เห็นภาพ ชี้ว่า การรักษาพยาบาลเป็นเพียงทางหนึ่งของสิทธิประโยชน์ประกันสังคม จากทั้งหมด 7 กรณีที่ผู้ประกันตนจะได้รับ เรียกว่าได้ให้ความคุ้มครอง-ดูแลตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ไปจนถึงเชิงตะกอน
ปลัดกระทรวงแรงงาน ยืนยันว่า สิทธิประกันสังคมที่ผู้ประกันตนจะได้รับ ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่า "สิทธิบัตรทอง” ตามที่ฝ่ายการเมืองออกมาประโคมข่าว ลดความน่าเชื่อถือระบบประกันสังคม เพราะสิทธิบัตรทอง จะดูเรื่องรักษาพยาบาลเพียงอย่างเดียว
แต่สิทธิประกันสังคมให้มากกว่านั้น อาทิ ค่าลาป่วย , ค่าคลอดบุตร เงินชดเชยกรณีว่างงาน โดยที่ผู้ประกันตนสามารถเลือกใช้บริการได้จากทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการมักมีอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
จากคำสัมภาษณ์ของ “บุญสงค์” สะท้อนให้เห็นว่า “ระบบประกันสังคม” เป็นกลไกสำคัญในการสร้างหลักประกันและความมั่นคงในชีวิตของแรงงาน ช่วยลดความเสี่ยงและแบ่งเบาภาระจากเหตุการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะในยุคที่เต็มไปด้วยความผันผวน ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น การเจ็บป่วย การว่างงาน การเกษียณอายุ ผ่านการเฉลี่ยสิทธิประโยชน์ต่างๆ
รวมถึงให้ความสำคัญกับการจ่ายเงินสะสมในบั้นปลายชีวิต นั่นคือ บำเหน็จ-บำนาญ ในยุคที่เข้าสู่สังคมสูงวัย และยังไม่มีเงินกองทุนไหนมาเยียวยา มีเพียง “ประกันสังคม” กองทุนเดียวที่สามารถดูแลผู้ประกันตนได้ในช่วงบั้นปลายของชีวิต
ที่น่าสนใจ ปลัดกระทรวงแรงงาน ย้ำว่า “ปี 2568 ประกันสังคม กำลังเตรียมการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตนในหลายๆ ด้าน