กรมพัฒน์ ดันไทย Wellness Hub โลก 2.8 หมื่นรายพร้อมให้บริการ

08 มี.ค. 2568 | 13:51 น.
อัปเดตล่าสุด :08 มี.ค. 2568 | 14:07 น.

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผนึกหน่วยงานพันธมิตร หารือแนวทางดันไทย Wellness Hub ของโลก ขยายตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พร้อมดึงดูดคนรักสุขภาพทั่วโลกใช้บริการเพิ่มขึ้น ล่าสุดมีนิติบุคคลคงอยู่ในธุรกิจ Wellness 28,536 ราย โชว์ศักยภาพพร้อมลุย

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ หม่อมหลวงภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นผู้แทนร่วมหารือกับหน่วยงานพันธมิตร ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต สมาคมการค้าและบริการสุขภาพผู้สูงอายุไทย สมาคมการส่งเสริมสุขภาพไทย สมาพันธ์การแพทย์แผนไทยล้านนา สมาพันธ์สมาคมสปาแอนด์เวลเนสไทย สมาคมแพทย์แผนไทยเชียงใหม่ และบริษัท พีเอ็มจี คอร์เปอเรชั่น จำกัด

กรมพัฒน์ ดันไทย Wellness Hub โลก 2.8 หมื่นรายพร้อมให้บริการ

เพื่อหาแนวทางการพัฒนาส่งเสริมธุรกิจ Wellness ของไทย และแนวทางการส่งเสริมธุรกิจบริการสุขภาพและความงามให้มีมาตรฐานระดับสากล

สำหรับธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ Wellness Tourism เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยที่รัฐบาลให้การสนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างจริงจังโดยกิจกรรมและบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวประเภทนี้ จะเน้นไปที่การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Health) ซึ่งครอบคลุมถึงการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ การทำสมาธิ และการบำบัดด้วยวิธีธรรมชาติ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนและฟื้นฟูสุขภาพไปพร้อม ๆ กัน

กรมพัฒน์ ดันไทย Wellness Hub โลก 2.8 หมื่นรายพร้อมให้บริการ ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมธุรกิจบริการสุขภาพและความงาม โดยได้จัดโครงการอบรมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการไทยอย่างต่อเนื่อง

โดยในปี 2568 กรมฯ เตรียมจัดโครงการ DBD Wellness 2025 เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจสปา นวดเพื่อสุขภาพ บริการความงาม บริการทางการแพทย์ บริการผู้สูงอายุ และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง กับ 3 กิจกรรมต่อยอดธุรกิจ ประกอบด้วย

1) จัด Workshop หลักสูตร “พลิกเกมธุรกิจ Wellness ให้ปัง ด้วยพลังดิจิทัลและเครือข่ายธุรกิจ” โดยกูรูการตลาดดิจิทัลและผู้คร่ำหวอดในธุรกิจสปาของไทย ในพื้นที่ 3 จังหวัดท่องเที่ยว คือ ครั้งที่ 1 วันที่ 18 - 19 มีนาคม 2568 ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ (ปิดรับสมัครวันที่ 12 มีนาคม 2568) ครั้งที่ 2 วันที่ 2 - 3 เมษายน 2568 ณ โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว จ.เชียงใหม่ (ปิดรับสมัครวันที่ 26 มีนาคม 2568) ครั้งที่ 3 วันที่ 29 - 30 เมษายน 2568 ณ โรงแรมเพิร์ล จ.ภูเก็ต (ปิดรับสมัครวันที่ 22 เมษายน 2568)

2) ให้คำปรึกษาธุรกิจอย่างเข้มข้น โดยผู้เชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืน และ Business Model Canvas โดยเน้นการจัดทำแผนธุรกิจภายใต้แนวคิดธุรกิจยั่งยืน ซึ่งเป็นเทรนด์ธุรกิจโลกในอนาคต ระหว่างวันที่ 19 - 20 พฤษภาคม 2568 ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ

3) คัดเลือกธุรกิจกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพ 30 ราย เข้าร่วมนำเสนอธุรกิจในงาน “Thailand Wellness & Healthcare EXPO 2025” ระหว่างวันที่ 26 - 29 มิถุนายน 2568 ณ Hall 101 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค

คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานทั้งไทยและต่างชาติมากกว่า 15,000 คน พร้อมกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจกับนักธุรกิจทั้งไทยและต่างชาติกว่า 40 ประเทศ นอกจากนี้ยังจัดทำแคมเปญส่งเสริมการตลาด และโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายภายในงาน อาทิ แจกของที่ระลึก บัตรกำนัล คูปองส่วนลด การเล่นเกมชิงรางวัล เป็นต้น

ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจ Wellness เช่น สปา นวดเพื่อสุขภาพ บริการความงาม บริการทางการแพทย์ บริการผู้สูงอายุ และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ที่สนใจ สมัครและดูรายละเอียดในแต่ละกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า 

ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568) มีนิติบุคคลคงอยู่ในธุรกิจ Wellness จำนวน 28,536 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 2,606 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 จากปีก่อนหน้า มีทุนจดทะเบียน อยู่ที่ 359,321 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 20,807 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6 จากปีก่อนหน้า

โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2566 อยู่ที่ 1.13 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 9,885 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1 จากปีก่อนหน้า ซึ่งกรมฯ ได้เห็นแนวโน้มการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะให้การส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการในธุรกิจ Wellness อย่างเต็มที่

“ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เนื่องจากมีทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงาม มีวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง และมีบริการด้านสุขภาพที่ได้มาตรฐาน ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจึงเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบเพิ่มขึ้น หากผู้ประกอบการสามารถตอบสนองความต้องการและสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจของตนเองได้ ก็จะประสบความสำเร็จในตลาดนี้ได้อย่างแน่นอน” นางอรมน กล่าว