31 มีนาคม 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงกรณีที่มีประชาชนอพยพออกจากตึกสูงหลายแห่งในพื้นที่กรุงเทพฯว่า การอพยพขอเน้นย้ำให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักด้วย ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข ก็ได้มีข้อปฏิบัติแนะนำการอพยพอย่างปลอดภัยให้ประชาชนสามารถปฏิบัติตามได้ จึงขอให้พี่น้องประชาชนปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดและอย่าวิตกกังวลมากเกินไปเพราะจะทำให้เกิดความเครียดจนเป็นโรคได้
ทั้งนี้ ควรติดตามข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐเป็นหลัก จะได้ไม่เกิดปัญหาสุขภาพจิตหากมีความวิตกกังวล จนพบอาการผิดปกติ ก็สามารถโทรสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากการอพยพของพี่น้องประชาชนบนตึกสูงในกทม.หลายแห่งวันนี้ ตนก็ได้เน้นย้ำให้ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข เฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมส่งทีมแพทย์ฉุกเฉินไปตามอาคารสูงที่แจ้งให้พี่น้องประชาชน เร่งอพยพทั้งหมดเพื่อเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนเป็นการเร่งด่วน หากเกิดเหตุขึ้นรวมถึงช่วยประเมินอาการของพี่น้องประชาชนที่ช่วงอพยพอาจเจ็บป่วยหรือ ได้รับบาดเจ็บได้
สำหรับหน่วยบริการของกระทรวงสาธารณสุข หลังได้รับผลกระทบ 9 เขตสุขภาพ 43 จังหวัด ส่งผลกระทบ 463 หน่วยงาน 687 อาคาร ซึ่งเปิดปกติแล้ว 681 อาคาร และยังปิดชั่วคราว 6 อาคาร คือ
1. รพ.เทพรัตน์เวชชานุกูล จ.เชียงใหม่
แฟลตเจ้าหน้าที่โครงสร้างเสียหาย รอประเมินโดยโยธาธิการจังหวัด
2. รพ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร อาคาร 4 ชั้น
3. รพ.บางมูลนาก จ.พิจิตร
4. รพ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง อาคาร 4 ชั้น วิศวกรประเมินให้ระงับการใช้งานและซ่อมแซมโดยด่วน
5. รพ.สมุทรสาคร อาคาร 12 ชั้น แตกร้าว
6. รพ.พระยืน จ.ขอนแก่น แฟลตที่พักอาศัย 3 ชั้น โครงสร้างอาคารแตกร้าว
ส่วนหน่วยบริการใน กทม.ที่ได้รับผลกระทบมี 2 แห่ง คือ
1.โรงพยาบาลเลิดสิน
พบความเสียหาย แต่ไม่กระทบต่อโครงสร้าง ยกเว้นส่วนทางเชื่อมต่ออาคารกาญจนาภิเษก ที่ยังใช้งานไม่ได้
2.โรงพยาบาลราชวิถี
อาคารทศมินทราธิราช พบความเสียหายที่อาจกระทบต่อโครงสร้างอาคาร จึงงดใช้อาคาร และส่งต่อผู้ป่วย 133 ราย ไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง
ทั้งนี้ ได้กำชับให้มีการตรวจสอบและออกใบรายงานความปลอดภัยโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนเปิดให้บริการประชาชนด้วย นายสมศักดิ์ รมว.สาธารณสุข กล่าว