"ต้อหิน" ภัยเงียบของการมองเห็น อายุมากกว่า 50 ปีพบได้ถึง 5%

05 มี.ค. 2568 | 12:05 น.

รพ.เมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) เตือน ต้อหิน ภัยเงียบของการมองเห็น คนไทยอายุมากกว่า 50 ปีจะพบต้อหินได้ถึง 5% แนะการตรวจตาและการมองเห็นด้วยตัวเองสม่ำเสมอ 

นายแพทย์ไพโรจน์  สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า การดูแลสุขภาพดวงตาและการตรวจการมองเห็นด้วยตัวเองเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอมีความสำคัญซึ่งหากพบความผิดปกติ และเข้าสู่ระบบบริการสาธารณสุขทางจักษุและตรวจพบโรคแต่ระยะแรกก็สามารถรักษาและป้องกันการสูญเสียการมองเห็นได้

การคัดกรองโรคตาจึงมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป ผู้มีประวัติครอบครัวสายตรงเป็นต้อหิน ผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุทางตา ผู้มีสายตาสั้นมาก สายตายาวมาก ในผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน หรือในผู้ที่ใช้ยาสเตียรอยด์นาน ๆ ควรได้รับการตรวจสายตาและวินิจฉัยโดยทีมจักษุสาธารณสุข

นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์

ด้านนายแพทย์อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวว่า ต้อหินเป็นโรคความเสื่อมของประสาทตาที่แทบไม่มีอาการแสดงในระยะเริ่มต้น ต่อเมื่อโรคดำเนินไปจนระยะท้ายทำให้สูญเสียลานสายตาและการมองเห็นได้ การเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพตาและการได้รับการวินิจฉัยโรครวมถึงการติดตามอาการและการรักษาอย่างทันท่วงทีจะสามารถชะลอโรคและรักษาการมองเห็นไว้ได้

ดังนั้น แนะนำควรตรวจตาอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือทดสอบการมองเห็นด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอทำให้สามารถรับรู้ความเปลี่ยนแปลงของการมองเห็นของตนเองได้ 

นายแพทย์อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง)

ขณะที่แพทย์หญิงกุลวรรณ โรจนเนืองนิตย์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษจักษุแพทย์ด้านต้อหิน กล่าวเสริมว่า เนื่องจากโรคต้อหินแทบไม่มีอาการแสดงในระยะต้นเลยจนเมื่อโรคดำเนินไปจนสุดทางจึงมีอาการ เช่น มุมมองของภาพแคบลงและมีการสูญเสียการมองเห็นในระยะสุดท้าย

การเข้าถึงบริการตรวจคัดกรองโรคตาในคนไทยยังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่ต้องการการพัฒนาและจัดสรรในระบบจักษุสาธารณสุขต่อไป เพื่อให้การคัดกรองโรคตาต่าง ๆ เช่น โรคต้อหินมีความเป็นไปได้ 

โรคต้อหิน แบ่งตาม กายวิภาคตาได้เป็น ต้อหินมุมเปิดและต้อหินมุมปิด และหากแบ่งตามสาเหตุของการเกิดโรคได้เป็นต้อหินปฐมภูมิ และต้อหินทุติยภูมิ โดยกลไกการเกิดโรคนั้นเกิดจากการสูญเสียสมดุลของการสร้างและระบายน้ำหล่อเลี้ยงลูกตา ส่วนใหญ่ไม่มีอาการแสดงใด ๆ ในระยะแรก มีเพียงภาวะต้อหินมุมปิด ชนิดเฉียบพลันที่อาจมีอาการแสดง เช่น ปวดตา ตาแดง การมองเห็นลดลง การตรวจลักษณะประสาทตาเสื่อมที่เข้าได้กับการสูญเสียลานสายตาจึงสามารถให้การวินิจฉัยโรคได้

เป้าหมายของการรักษาต้อหินนั้น คือ ชะลอความเสื่อมของโรคโดยรักษาการมองเห็น และคงคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยไว้จนวาระสุดท้ายของชีวิต โดยการรักษาที่ได้ผล คือ การควบคุมความดันตาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อประสาทตาด้วยการใช้ยาหยอดลดความดันลูกตาการเลเซอร์และการผ่าตัดแต่เนื่องจากต้อหินเป็นโรคความเสื่อมการรักษาไม่หายขาด

ความเข้าใจโรคความมีวินัยในการหยอดยาและการหมั่นติดตามการรักษาส่งผลโดยตรงต่อผลลัพธ์ของการรักษาแต่การรักษาทางเลือกอื่น ๆ เช่น อาหารเสริม การนวดตาเป็นการแอบอ้างและโฆษณาที่เกินจริง