จากการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ของกรมควบคุมมลพิษ ระหว่างวันที่ 7 – 8 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ มีแนวโน้มฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน ทั้งในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ห่วงใยประชาชนเพื่อป้องกันตนเองจากการรับสัมผัสฝุ่น PM2.5 แนะนำให้ประชาชนควรปฏิบัติตามแนวทาง "เช็ก ใช้ เลี่ยง ลด ปิด" อย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะการ "ใช้" หน้ากากป้องกันฝุ่น PM2.5 โดยควรเลือกใช้หน้ากาก N95 เป็นอันดับแรกเนื่องจากมีประสิทธิภาพในการกรองอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอนได้ถึงร้อยละ 90.82 – 99.89
โดยแนะนำให้เลือกที่มีการรับรองมาตรฐานสากล เช่น มาตรฐานอเมริกา NIOSH มาตรฐานยุโรป EN149:2001 มาตรฐานจีน GB2626-2019 เป็นต้น รวมถึงเลือกที่มีขนาดเหมาะสมกับใบหน้า ทั้งนี้ สามารถเลือกใช้ได้ ทั้งแบบมีวาล์วและไม่มีวาล์ว
นอกจากนี้ยังสามารถเลือกใช้หน้ากากอนามัยได้เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการกรองอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอน ได้ร้อยละ 50 – 70 โดยต้องเลือกที่ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์อย่างน้อย 3 ชั้น มีแผ่นกรองอยู่ชั้นกลางและเลือกที่มีการรับรองมาตรฐาน มอก. 2424 – 2565 มาตรฐาน ASTM F2100 – 21 มาตรฐาน EN 14683: 2019 หรือผ่านมาตรฐานกระบวนการผลิต เช่น ISO 9001 ISO 14001 ISO 13485 ISO 14971 เป็นต้น
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวแนะนำการสวมหน้ากากที่ถูกวิธีว่า ควรจะสวมให้ครอบกระชับจมูกและใต้คาง รวมถึงทดสอบการแนบสนิทของหน้ากากกับใบหน้า หากสวมแล้วหายใจไม่สะดวก แน่นหน้าอก เมื่อยล้า ปวดศีรษะ หรือคลื่นไส้ ให้รีบถอดออก และเปลี่ยนวิธีป้องกันตนเอง เช่น เข้าไปอยู่ในอาคารหรือหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่มีฝุ่นสูง เป็นต้น โดยเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์
ผู้มีโรคประจำตัว
ทั้งนี้ ควรเปลี่ยนหน้ากากเมื่อสวมแล้วรู้สึกไม่กระชับกับใบหน้า หายใจลำบากมากขึ้น ฉีกขาด เปื้อน หรือเปียกน้ำ รวมถึงห้ามใช้หน้ากากร่วมกับผู้อื่น ห้ามนำไปซักแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ และไม่ควรสวมหน้ากาก N95 ขณะออกกำลังกายเพราะจะทำให้ร่างกายต้องหายใจแรงและเร็วขึ้นส่งผลให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานหนักมากขึ้นซึ่งอาจเป็นอันตรายได้
วิธีการทิ้งหน้ากาก