*** หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ “ลึก ตรงประเด็น เห็นโอกาส” ฉบับ 4,069 ระหว่างวันที่ 9-12 ก.พ. 2568 โดย...กาแฟขม
*** ลัดฟ้าไปเยือนเมืองจีนระหว่าง 5-9 ก.พ.2568 สำหรับ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขนคณะชุดใหญ่ทั้งรัฐมนตรี ข้าราชการกระดับสูงแทบทุกหน่วย เดินทางไปพบปะเจรจาแบบเต็มคณะกับ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง มังกรใหญ่ มหาอำนาจสำคัญของโลกในห้วงนี้ โอกาสดียิ่งประกอบวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ไทย-จีน ที่เป็นทางการ นับหนึ่งกันตั้งแต่ยุค 50 ปีก่อน สมัย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี
*** ว่าที่จริงความสัมพันธ์ไทย-จีนมีมายาวนาน สมัยก่อนคนจีนรอนแรม เดินทาง มีเรื่องเล่าตั้งแต่ เสื่อผืน หมอนใบลงเรือ มาขึ้นฝั่งตั้งรกรากทั้งฝั่งอ่าวไทย อันดามันตลอดจนกรุงเทพฯ ภาคกลาง จนมีลูกหลาน เชื้อสายจีนเต็มบ้านเต็มเมือง ทำมากินเป็นเจ้าสัวก็หลายราย เป็นเศรษฐี อาเสี่ยจำนวนมาก สืบทอดสู่รุ่นลูก หลาน เหลน ในแทบทุกธุรกิจ ทั้งค้าขาย การเกษตร การเงินธนาคาร อุตสาหกรรมหนัก อุตสาหกรรมเบา การสร้างบ้าน สร้างเมือง ส่วนใหญ่รากฐานมาจากคนไทยเชื้อสายจีนแทบทั้งสิ้น
*** เที่ยวนี้ นายกฯอิงค์ ก่อนไปเยือน เรียกประชุมครม.อนุมัติงบประมาณรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน โดยลากจากหนองคายลง มา นครราชสีมา ก่อนหน้านี้กรุงเทพ-นครราชสีมา ก็ปักหมุดสร้างไปเล้ว แต่ล่าช้ากว่าแผนเยอะ ห้วงนี้ก็เร่งให้เร็วขึ้น มูลค่าโครงการตั้ง 3.4 แสนล้าน ก็ต่อเชื่อมกันเป็นระบบ โครงข่ายเชื่อมโยงไทย-จีนนี้ เติมเต็มจิ้กซอว์ที่ขาดหายไป ในการเชื่อมโยงจีนกับอาเซียน ไปจนถึง สิงคโปร์
*** ในการหารือเป็นทางการ กำหนดวาระใส่ลงไอแพดไปเรียบร้อย หารือหลักๆ 3 เรื่อง การค้า การลงทุน โหมดความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-จีน ให้เร่งส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนด้านการลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะในสาขาแห่งอนาคต ที่สำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านสีเขียว และ ดิจิทัล เช่น EV, Semi-conductor, Data Center ให้ครม.ให้ความสำคัญกับมาตรการกำกับดูแล มาตรฐานคุณภาพ และความปลอดภัยของสินค้าอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร
*** ถัดมาเป็นเรื่องร้อนๆ ระดับภูมิภาค เรื่องมันมีอยู่ว่า มีจีนเทา จีนดำ เข้ามาตั้งแก็งคอลเซ็นเตอร์ แถวๆ ฝั่งเมียวดี ตรงข้ามแม่สอดคนไทยก็เสียหายไปเยอะ รวมๆ โดนพวกนี้ลวงหลอกไปใกล้แสนล้านบาทแล้ว ยังอาละวาดไม่หยุด นายกฯอิงค์ ก็หมายมั่นปั้นมือยกหัวข้อนี้ ถกกับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ร่วมกันปราบพวกอาชญากรรมออนไลน์
ปัญหานี้จีนเล็งเห็นอยู่แล้ว การขอความร่วมมือไม่น่าจะเป็นปัญหา เรื่องนี้จีนส่งบุคคลสำคัญ ระดับ หลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ มาพบ ประชุมร่วม แถมเฉียดลงไปพื้นที่ปัญหา หนังสือพิมพ์จีนก็ตีข่าวกันอึกทึก แต่ทำนองเหน็บๆ ความตั้งใจในการแก้ปัญหาของไทย จริงจังแค่ไหน ว่ากันว่าเรื่องนี้จีนมีข้อมูลหมด
*** ก็เหมือนที่รัฐมนตรีในรัฐบาลไทยถกเถียงกันอยู่ในเวลานี้ ระหว่าง อนุทิน ชาญวีระกูล รมว.มหาดไทย กับ รองนายกฯ ควบกลาโหม ภูมิธรรม เวชยชัย ว่าด้วยเรื่องตัดไฟแก็งคอลเซ็นเตอร์ ที่การไฟฟ้าภูมิภาคของไทยจ่ายไฟไปขายให้ พวกนี้ก็สว่างไสวต่อพ่วงเซิร์ฟเวอร์ล่อลวงคนไทยนํ้าตาไหลพราก ข้าง มท.1 ก็บอกไม่มีอำนาจให้ รองนายกฯ คุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ สมช.สั่ งมาจะดำเนินการทันที ข้างรองนายกฯ ก็บอกว่า การไฟฟ้าภูมิภาคทำได้เลย ไม่ต้องขอครม.ซํ้า
ว่าที่จริงเรื่องนี้ เป็นภัยใกล้ตัว ภัยความมั่นคงก็ทำเถิด ไม่ต้องรีรอ ถามหากฎหมายให้มากมาย ก็แปลกๆ ให้เขานินทาทั้งบ้านเมือง มท.หนู บทจะเคารพกฎหมายก็พูดปาวๆ ต้องมีกฎหมายรองรับ แต่ทีบางเรื่องอย่างกรณีที่ดินที่อื้ออึงกันอยู่ ศาลตัดสินแล้ว กลับไปทำในด้านที่ไม่มีคำตัดสินรองรับซะงั้น ล่าสุดหลังทนแรงกดดันไม่ไหว และมีคำสั่งสภาความมั่นคงแห่งชาติออกมา เจ้าตัวก็รีบแจ้นไปกดปุ่มตัดไฟเป็นที่เอิกเกริกเลย แหม่ให้เจ้าหน้าที่เขาทำไปก็ได้
หน้า 4 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 4,069 วันที่ 9 - 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568