เรืออากาศเอกหญิงแพทย์หญิงอัจฉราวดี มหัตนิรันดร์กุล แพทย์ประจำศูนย์พรีเมียร์ไลฟ์ โรงพยาบาลพญาไท 2 กล่าวว่า “เทรนด์สุขภาพในปี 2568 จะเน้นที่การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Care) เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนของประชากรเป็นปัจจัย
โดยมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงอายุและอัตราการเกิดที่ลดลง ส่งผลให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพเป็นไปในลักษณะของการป้องกันโรคมากกว่าการรักษา ผู้คนไม่อยากแก่และไม่อยากเจ็บป่วยแม้แต่ในกลุ่มผู้ป่วยเองก็เริ่มลดการใช้ยา และหันมาปรับวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
1. Personalized Medicine การรักษาที่เน้นความเฉพาะบุคคล โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น พันธุกรรม ประวัติทางการแพทย์ วิถีชีวิต และสภาพแวดล้อม ทำให้การรักษาโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดผลข้างเคียง และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ป่วยได้ตรงจุดยิ่งขึ้น
เหตุผลที่ Personalized Medicine เป็นที่สนใจในปัจจุบัน คือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การถอดรหัสพันธุกรรม (DNA sequencing) ที่มีต้นทุนถูกลง ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมเพื่อนำมาใช้ในการวินิจฉัยและรักษาโรคเป็นไปได้ง่ายขึ้น
2. Mental Health การดูแลสุขภาพจิตที่ได้รับความสำคัญเพิ่มขึ้น ผู้คนเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพจิตมากขึ้น และหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพจิตของตนเองมากขึ้น โดยสังคมปัจจุบันมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้คนต้องเผชิญกับความเครียดและความกดดันมากขึ้น
3. Gut Health & Microbiome การดูแลลำไส้เป็นหัวใจสำคัญของสุขภาพองค์รวมและไมโครไบโอม (จุลินทรีย์ในลำไส้) ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความสมดุลและส่งเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย
4. Sustainable & Ethical Wellness การดูแลสุขภาพแบบยั่งยืน การเติบโตของตลาดสุขภาพและความงามแสดงให้เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการที่ส่งเสริมสุขภาพแบบยั่งยืน เช่น อาหารออร์แกนิก ผลิตภัณฑ์ความงามจากธรรมชาติ หรือโปรแกรมการดูแลสุขภาพที่เน้นการป้องกันโรค
5. Longevity & Biohacking การใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายเพื่อการมีอายุยืนยาวและสุขภาพดี ผ่านการใช้ข้อมูลการตรวจสอบสุขภาพและการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต
ทั้งนี้ การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน คือการสร้างสุขภาพที่ดีจากภายในเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดโรค โดยการเลือกใช้เทคโนโลยีและข้อมูลทางการแพทย์ที่ทันสมัย รวมถึงการให้ความสำคัญกับการปรับวิถีชีวิต เช่น การออกกำลังกายที่เหมาะสม การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและการจัดการความเครียด
นางสาวสิรีรัตน์ คอวนิช ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต หมวดสุขภาพและความงาม “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า เราอยู่ตลาดบัตรเครดิตในหมวดสุขภาพและความงาม มานานกว่า 20 ปี โดยมีเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจกว่า 5,200 แห่งทั่วประเทศ
ล่าสุดได้จับมือกับพันธมิตรชั้นนำในวงการสุขภาพ อาทิ โรงพยาบาลพญาไท, พรเกษมคลินิก, วีสแควร์ คลินิก และ HDmall เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพและความงามมากขึ้น
จากข้อมูลพบว่า ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดสุขภาพและความงามเติบโตขึ้นถึง 12% ในปี 2567 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์การดูแลสุขภาพเชิงป้องกันที่ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้น
เทรนด์การดูแลสุขภาพในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาเป็นไปในแนวทางของการป้องกันมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเกิดโรคระบาดที่ไม่มีใครคาดคิดการมีสุขภาพแข็งแรงจึงเป็นเสมือนเกราะป้องกันเบื้องต้นที่อาจช่วยลดความรุนแรงจากหนักเป็นเบา และด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่การใช้จ่ายผ่านออนไลน์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ อีกทั้งการเป็นสังคมผู้สูงวัย (Aging Society) ควบคู่กับการคงความงาม (Aesthetic Wellbeing)
ความร่วมมือระหว่างเคทีซีและพันธมิตรในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของคนไทย และตอบสนองความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง