29 มกราคม 2568 นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยถึงการผลักดันสมุนไทยสู่ตลาดความงามระดับโลกว่า "ขมิ้นชัน" นอกจากนำมาช่วยรักษาอาการท้องอืดท้องเฟ้อแล้วยังมีศักยภาพในด้านความงามและผิวพรรณ เนื่องจากมีสารเคอร์คิวมินอยด์ (Curcuminoids) โดยเฉพาะ สารเคอร์คิวมิน(Curcumin) ช่วยลดการอักเสบของผิว บรรเทาอาการระคายเคือง
ลดเลือนจุดด่างดำ ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดสิว จึงสามารถนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ด้านความงามและผิวพรรณได้เป็นอย่างดี
ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรที่นิยมแพร่หลายในตลาดโลกโดยในปี 2567 มีมูลค่าถึง 7,977.82 ล้านบาทโดยประเทศไทยมีส่วนแบ่งตลาด 5.6% ด้วยมูลค่าตลาด 450.24 ล้านบาทและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนถึง คาดการณ์ว่าในปี 2570 มูลค่าตลาดทั่วโลกจะทะลุ 10,958.15 ล้านบาท โดยประเทศไทยจะมีมูลค่า 550 ล้านบาท หรือ เติบโตเฉลี่ยปีละ 11.4%
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมากรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้ประกาศให้ ขมิ้นชัน เป็น 1 ใน 15 สมุนไพร Herbal Champions ที่มีความพร้อมเพื่อการพัฒนาต่อยอดทางเศรษฐกิจของประเทศ วางเป้าหมายออกสู่ตลาดโลก สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสที่ไทยจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านสมุนไพรที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้อย่างมหาศาล
ด้าน ดร.ภญ.มณฑกา ธีรชัยกุล ผู้อำนวยการกองเศรษฐกิจสมุนไพร กล่าวว่า "ขมิ้นชัน" เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ทั้งต่อสุขภาพภายในและภายนอก ถือเป็นตัวเลือกที่สำคัญในการดูแลผิวพรรณจากธรรมชาติ เห็นได้จากเครื่องสำอางแบรนด์ชั้นนำบางแบรนด์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มี ขมิ้นชัน เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์
ข้อมูลทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีเครื่องสำอางที่มีขมิ้นชันเป็นส่วนประกอบ ขึ้นทะเบียนแล้ว 5,954 ผลิตภัณฑ์ หรือคิดเป็นร้อยละ 2.06 ของเครื่องสำอางที่จำหน่ายอยู่ในประเทศไทยทั้งหมดแสดงถึงช่องว่างและโอกาสที่ขมิ้นชันจะสามารถเติบโตได้อีกมาก
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจึงได้ผลักดันส่งเสริมผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ให้พัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ดูแลความงามจากขมิ้นชัน ให้มีประสิทธิภาพ ดูดซึมได้ดีอยู่ในรูปแบบที่สะดวกและน่าใช้มากยิ่งขึ้น
รวมถึงการผลักดันให้มีการผลิตขมิ้นชันในรูปแบบของสารสกัดเพื่อเพิ่มมูลค่าและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ โดยพร้อมสนับสนุนการใช้สมุนไพรไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับสากลต่อไป