สมศักดิ์ มอบ สปสช. ปรับงบ 3.5 พันล้าน สู้วิกฤตฝุ่น PM 2.5

25 ม.ค. 2568 | 05:00 น.

รมว.สาธารณสุข สั่งการ สปสช. ปรับงบกว่า 3,536 ล้านบาท กระตุ้นท้องถิ่นจัดทำโครงการรับมือฝุ่น PM 2.5 เปิดช่องท้องที่-ภาคประชาชนขอรับงบสนับสนุนป้องกันผลกระทบทางสุขภาพ

ในการประชุมแก้ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่มี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานโดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมนายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า จากปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชนในขณะนี้ ถือเป็นวาระสำคัญของกระทรวงสาธารณสุขสืบเนื่องจากนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร มีข้อสั่งการให้มีการเตรียมการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างเร่งด่วนในทุกกระทรวง

สำหรับกระทรวงสาธารณสุขนั้นได้มีการดำเนินการในหลายส่วนและมีแผนการดำเนินการต่าง ๆ ตามข้อสั่งการ 5 มาตรการ อาทิ  1.ให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข หรือ PHEOC ของกระทรวงสาธารณสุข เพิ่มเติมจากใน 10 จังหวัด และ 2 เขตสุขภาพที่เปิดไปก่อนหน้านี้ 

2.ด้านประชาสัมพันธ์เชิงรุกและสร้างความรอบรู้ ได้จัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพ ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งมีการแถลงข่าวต่อเนื่องมาแล้ว 3 วัน และจะแถลงทุกวันในเวลา 14.00 น.

สมศักดิ์ มอบ สปสช. ปรับงบ 3.5 พันล้าน สู้วิกฤตฝุ่น PM 2.5

3. ดูแลประชาชนกลุ่มเสี่ยงโดยจัดทีม SHERT หรือ ทีมพิเศษฉุกเฉินสุขภาพระดับจังหวัด 76 ทีม และระดับอำเภอ 878 ทีม ลงพื้นที่ดูแลประชาชนกลุ่มเสี่ยง

4.เปิดคลินิกมลพิษแล้วใน 55 จังหวัด เปิดห้องปลอดฝุ่น 5,517 ห้อง และสนับสนุนมุ้งสู้ฝุ่นให้กลุ่มเสี่ยงใน 35 จังหวัดและมีแผนกระจายให้ผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่เสี่ยงสูงเพิ่มอีก 37,569 ราย

5.สนับสนุนอุปกรณ์เวชภัณฑ์ไปยังหน่วยบริการซึ่งช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาได้มีการสนับสนุนหน้ากากอนามัยแล้วกว่า 180,000 ชิ้น และหน้ากาก N95 กว่า 1.1 ล้านชิ้น 

พร้อมกันนี้ได้หารือกับ สปสช. เพื่อบูรณาการกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นหรือพื้นที่ (กทป.) เพื่อสนับสนุนนโยบายในการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นให้พี่น้องประชาชนในแต่ละท้องที่

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สปสช.จะมีการซักซ้อมกับ กทป.ทั่วประเทศ 7,700 แห่ง ซึ่งมีการเตรียมโครงการอื่น ๆ ที่จะดำเนินการ

ในปีนี้มีเงินค้างในระบบ 3,536 ล้านบาทจะขอให้มีการปรับโครงการเพื่อให้สนับสนุนหน้ากากอนามัยเพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้รับอย่างเพียงพอ โดยจะมีการสื่อสารขอให้ประสานกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลทุกแห่งในพื้นที่ เพื่อเข้าไปสนับสนุนหน้ากากอนามัยที่อาจจะยังไม่เพียงพอ โดยจะมีการทำหนังสือซักซ้อมปรับโครงการทั้งหมดในวันนี้ (25 มกราคม) เป็นต้นไป

สมศักดิ์ มอบ สปสช. ปรับงบ 3.5 พันล้าน สู้วิกฤตฝุ่น PM 2.5

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายสมศักดิ์ รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานบอร์ด สปสช. ได้มอบให้ สปสช. เร่งเชิญชวนให้หน่วยงาน องค์กร หรือกลุ่มประชาชน จัดทำโครงการการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันฝุ่น PM 2.5 เพื่อลงผลกระทบทางสุขภาพที่เกิดขึ้น โดยให้ขอรับงบประมาณสนับสนุนผ่านกลไกที่เรียกว่า "กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นหรือพื้นที่" (กปท.)

สำหรับ กปท. เป็นกองทุนในระดับพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา เป็นต้น ที่ สปสช. อุดหนุนงบประมาณร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

วัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนงบประมาณให้กับโครงการที่เกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ภายใต้แนวคิดที่ให้ประชาชนในพื้นที่เป็นผู้จัดทำและขับเคลื่อนการดำเนินงาน เพื่อให้โครงการสุขภาพที่จัดทำนั้นสอดคล้องกับความต้องการในพื้นที่มากที่สุด

"สปสช. จะเร่งประสานไปยังพื้นที่ต่างๆ ให้มีการเร่งจัดทำโครงการที่เกี่ยวกับการป้องกันผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 โดยเร็ว ตามที่ได้รับมอบหมายจาก รมว.สาธารณสุข โครงการในลักษณะนี้เป็นหนึ่งในขอบเขตที่สามารถขอรับงบประมาณจาก กปท.ได้ซึ่งหน่วยงานที่เขียนโครงการฯ สามารถทำได้ทั้ง หน่วยงานของรัฐและกลุ่มองค์กรภาคประชาชนในพื้นที่

หากมีไอเดียดี ๆ ในการป้องกันผลกระทบที่จะเกิดต่อสุขภาพจากฝุ่น PM 2.5 ก็สามารถติดต่อเขียนโครงการเพื่อรับการสนับสนุนได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ของท่านไม่ว่าจะเป็นเทศบาล หรือ อบต. ที่อาศัยอยู่" เลขาธิการ สปสช. กล่าว

สำหรับตัวอย่างลักษณะโครงการที่สามารถขอรับงบประมาณจาก กปท.ได้ เช่น การสำรวจกลุ่มเป้าหมายที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลตามความเสี่ยงต่อการเกิดโรค อาทิ หญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ที่มีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ง่าย เป็นต้น

นอกจากนี้ยังสามารถจัดทำโครงการอบรมให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนในพื้นที่โดยติดต่อหน่วยงาน ที่สามารถให้ความรู้ในการป้องกันและดูแลสุขภาพจากภัยฝุ่น PM 2.5 การจัดหาอุปกรณ์ป้องกัน หน้ากากมาตรฐาน N95 ตามวิธีการป้องกันของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งการติดตามสถานการณ์ และเฝ้าระวังสถานการณ์ และแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ทราบเป็นระยะ