19 มี.ค. ศาล นัดอ่านคำพิพากษาคดี ณพ -กฤษณ์ ณรงค์เดช ผิดยักยอก
19 มี.ค. ศาลฯ นัดอ่านคำพิพากษาคดี ณพ -กฤษณ์ ณรงค์เดช และพวกรวม 3 คน ฐานความผิดยักยอก 35 ล้านบาท หลังมีหลายคดีชวนมาจากWEH
คดีศึกสายเลือด ตระกูลณรงค์เดช ยังไม่จบลงโดยง่าย ล่าสุดวันพุธที่ 19 มีนาคม 2568 เวลา 9.00น. ศาลแขวงพระนครใต้ กำหนดอ่านคำพิพากษาคดี อ.1662/2566 ระหว่างนายณพ ณรงค์เดช กับนายกฤษณ์ ณรงค์เดช และพวกรวม 3 คน ฐานความผิดยักยอก มูลค่ากว่า 35 ล้านบาท
ณพ ณรงค์เดช
ขณะเมื่อปี2567 ยังมีคดี ศาลรับฟ้องคดี ‘ณพ ณรงค์เดช’ ฟ้อง ‘กฤษณ์’ ปมโอนเงินกองมรดกวันที่ 8 กรกฎาคม 2567กรณีนายณพ ณรงค์เดช นักธุรกิจชื่อดัง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายกฤษณ์ ณรงค์เดช (จำเลย) คดีหมายเลขดำที่ อ.599/2567 (เลขคดี คนละปี ปี67) ข้อหาความผิดฐานยักยอก โดยกล่าวหาว่านายกฤษณ์ ฐานะเป็นผู้จัดการมรดกได้นำเงินที่ได้รับจากการขายที่ดินของกองมรดก ดร.ถาวร พรประภา ไม่นำฝากเข้าบัญชีกองมรดกของคุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช ผู้เป็นมารดา แต่กลับโอนเงินจำนวนดังกล่าวต่อไปยังบัญชีส่วนตัวของจำเลยเอง ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องไปเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา
ครั้งนั้น ศาลนั่งบัลลังก์พิเคราะห์พยานหลักฐานที่นายณพ ณรงค์เดช ฝ่ายโจทก์นำสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง เห็นว่า เบื้องต้นเมื่อโจทก์เป็นพยานมีสิทธิได้รับมรดกของคุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช โดยมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งในเงินสด และเงินฝากในธนาคารของเจ้ามรดก ซึ่งนายกฤษณ์ ณรงค์เดช (จำเลย)
เป็นผู้จัดการมรดกของคุณหญิงพรทิพย์มีหน้าที่รวบรวมทรัพย์มรดกเพื่อแบ่งให้ทายาทผู้รับพินัยกรรมตลอดจนทำบัญชีทรัพย์มรดก เมื่อเอกสารหลักฐานของโจทก์บ่งชี้สอดคล้องกับข้อกล่าวหาตามคำฟ้องไม่มีข้อพิรุธสงสัย
พยานหลักฐานโจทก์น่าเชื่อว่า จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลกระทำความผิดหน้าที่ เป็นเหตุให้โจทก์เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของโจทก์ หรือครอบครองและเบียดบังเงินจำนวนดังกล่าวไปเป็นของตนเองหรือบุคคลที่สาม
ศาลจึงให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา และออกหมายเรียกจำเลยมาสอบคำให้การ ตรวจพยานหลักฐานและกำหนดวันนัดสืบพยานในวันที่ 19 ส.ค.วันเดียวกัน ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง คดีหมายเลขดำที่ อ.720/2567 ที่นายณพเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายกฤษณ์ ผู้เป็นพี่ชาย ในความผิดฐานยักยอกอีกหนึ่งคดีด้วย นัดฟังคำสั่ง 9 ส.ค.67
อย่างไรก็ตาม ปมคดีใหญ่มาจาก กรณีสำนักข่าวบีบีซีประเทศ มีรายงาน ศาลอังกฤษ ตัดสินให้ นายณพ ณรงค์เดช และพวก จ่ายค่าเสียหายรวมราว 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 3 หมื่นล้านบาท แก่นายนพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) หลังถูกนายนพพรฟ้องในข้อหาสมคบกันชักจูงใจด้วยข้อมูลลวงให้ขายหุ้น WEH
สำหรับผู้ถูกฟ้องสำคัญคนอื่น ๆ ในคดี ได้แก่ นายณพ ณรงค์เดช ลูกชายคนกลางของ นายเกษม ณรงค์เดช เป็นจำเลยที่ 1 ส่วนนายเกษม ผู้เป็นบิดา ตกเป็นจำเลยที่ 14 และจำเลยที่ 15 คือ คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา แม่ภรรยาของนายนพ และภรรยาของ พล.ต.อ.พจน์ บุณยะจินดา อดีตอธิบดีกรมตำรวจผู้ล่วงลับ