กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศวันนี้ – 4 มีนาคม พ.ศ. 2568 (พยากรณ์อากาศล่วงหน้า)ในช่วงวันที่ 26 ก.พ. – 4 มี.ค. 68 ประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อยลง และจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนตอนกลางวัน แต่ยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้าในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน แต่ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง
- ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
- เกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร ตลอดช่วง
- ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง
กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ – 4 มีนาคม พ.ศ. 2568
ภาคเหนือ
- อากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 38 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 - 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาคตลอดช่วง
วันที่ 26 ก.พ. – 1 มี.ค. 68
- อากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 - 36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14 - 18 องศาเซลเซียส
วันที่ 2 – 4 มี.ค. 68
- อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 - 37 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17 - 21 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.
ภาคกลาง
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาคตลอดช่วง มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 37 องศาเซลเซียส
วันที่ 26 ก.พ. – 1 มี.ค.68
- ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม
วันที่ 2 – 4 มี.ค. 68
- ลมใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม
ภาคตะวันออก
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ตลอดช่วง
วันที่ 26 ก.พ. – 1 มี.ค. 68
- มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 36 องศาเซลเซียส
วันที่ 2 – 4 มี.ค. 68
- อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 26 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
วันที่ 27 ก.พ. – 1 มี.ค.68
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 30 ของพื้นที่
- ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานี ขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป: ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
วันที่ 2 – 4 มี.ค. 68
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 33 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24 - 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 - 34 องศาเซลเซียส
วันที่ 27 ก.พ. – 1 มี.ค. 68
- ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
วันที่ 2 – 4 มี.ค.68
- ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ตลอดช่วง
วันที่ 26 ก.พ. – 1 มี.ค.68
- มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.
วันที่ 2 – 4 มี.ค.68
- อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 – 38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.