อัพเดทค่าฝุ่น PM 2.5 ทั่วไทย ล่าสุดเช้านี้ "10 จังหวัด" ระดับสีส้ม

10 ก.พ. 2568 | 07:47 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.พ. 2568 | 08:23 น.
788

อัปเดตค่าฝุ่น PM 2.5 ทั่วไทย 10 ก.พ. 68 "พะเยา" ฝุ่นพุ่งสูงสุด พร้อมเช็กจังหวัดสีส้ม-เหลือง-เขียว-ฟ้า ก่อนออกจากบ้าน พร้อมคำแนะนำป้องกันฝุ่น คลิกอ่านเลย

จากข้อมูลของ ระบบติดตามฝุ่น PM 2.5 หรือ เช็คฝุ่นของ GISDA พบว่า ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในเช้าวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 07.00 น. มีความแตกต่างกันในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ

 

โดยสามารถแบ่งออกเป็นระดับสีต่าง ๆ ใช้หน่วยวัดเป็น ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ดังนี้

 

พื้นที่สีส้ม (ค่าฝุ่น PM 2.5 สูง เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ)

 

จำนวน 11 จังหวัดที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงเกินมาตรฐานและอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ได้แก่

  1. พะเยา (55.5)
  2. นราธิวาส (48.4)
  3. ปัตตานี (48.2)
  4. ยะลา (47.1)
  5. เชียงราย (46.2)
  6. สมุทรสงคราม (46.1)
  7. สุโขทัย (42.3)
  8. แพร่ (41.4)
  9. ลำปาง (40.6)
  10. อุตรดิตถ์ (39.6)
  11. น่าน (38.1)

พื้นที่เหล่านี้มีค่าฝุ่นเกิน 37.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นระดับที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนควรสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคทางเดินหายใจ

 

พื้นที่สีเหลือง (ค่าฝุ่น PM 2.5 ปานกลาง)

 

จำนวน 30 จังหวัดที่มีค่าฝุ่นอยู่ในระดับปานกลาง ได้แก่:

  1. สมุทรสาคร (36.6)
  2. พิษณุโลก (34.8)
  3. เพชรบุรี (33.7)
  4. พัทลุง (33.7)
  5. ตาก (33.4)
  6. ตรัง (32.8)
  7. ลำพูน (32.0)
  8. เชียงใหม่ (31.9)
  9. ราชบุรี (31.6)
  10. เลย (31.4)
  11. เพชรบูรณ์ (31.1)
  12. สิงห์บุรี (30.8)
  13. ชุมพร (30.6)
  14. ตราด (30.5)
  15. นครปฐม (30.0)
  16. อุทัยธานี (27.6)
  17. นครศรีธรรมราช (27.5)
  18. กรุงเทพมหานคร (27.3)
  19. ประจวบคีรีขันธ์ (27.3)
  20. ขอนแก่น (27.2)
  21. มหาสารคาม (27.2)
  22. สงขลา (27.0)
  23. สมุทรปราการ (26.8)
  24. ชัยนาท (26.6)
  25. อ่างทอง (26.1)
  26. ระนอง (26.0)
  27. สตูล (25.5)
  28. แม่ฮ่องสอน (25.3)
  29. นครสวรรค์ (25.2)
  30. กำแพงเพชร (25.2)

 

ในพื้นที่เหล่านี้ แม้ว่าคุณภาพอากาศจะยังไม่อยู่ในระดับอันตรายมาก แต่ ประชาชนที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน

 

พื้นที่สีเขียว (คุณภาพอากาศดี)

 

มีจำนวน 31 จังหวัดที่มีค่าฝุ่นต่ำกว่า 25 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยและอากาศดี ได้แก่:

 

  1. ปทุมธานี (24.3)
  2. กาญจนบุรี (23.9)
  3. ฉะเชิงเทรา (23.9)
  4. กาฬสินธุ์ (23.5)
  5. ร้อยเอ็ด (23.3)
  6. จันทบุรี (22.9)
  7. ระยอง (22.6)
  8. ลพบุรี (22.5)
  9. ชลบุรี (22.5)
  10. พิจิตร (22.4)
  11. ชัยภูมิ (21.9)
  12. พังงา (21.9)
  13. หนองบัวลำภู (21.7)
  14. นนทบุรี (21.2)
  15. สุราษฎร์ธานี (21.2)
  16. สุพรรณบุรี (21.2)
  17. ยโสธร (20.8)
  18. กระบี่ (20.7)
  19. พระนครศรีอยุธยา (20.3)
  20. ภูเก็ต (20.1)
  21. ปราจีนบุรี (19.8)
  22. นครราชสีมา (19.1)
  23. อุบลราชธานี (18.8)
  24. สระแก้ว (18.5)
  25. สระบุรี (17.7)
  26. หนองคาย (17.4)
  27. อุดรธานี (17.1)
  28. นครนายก (16.9)
  29. บุรีรัมย์ (16.0)
  30. มุกดาหาร (15.8)
  31. สุรินทร์ (15.8)

 

พื้นที่เหล่านี้มีค่าฝุ่นอยู่ในระดับปลอดภัย สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ควรติดตามคุณภาพอากาศอย่างสม่ำเสมอในช่วงเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

 

พื้นที่สีฟ้า (คุณภาพอากาศดีมาก)

 

จังหวัดที่มีคุณภาพอากาศดีที่สุดในเช้าวันนี้ ได้แก่:

  1. อำนาจเจริญ (15.0)
  2. สกลนคร (14.7)
  3. นครพนม (14.5)
  4. บึงกาฬ (14.3)
  5. ศรีสะเกษ (14.2)

 

จังหวัดเหล่านี้มีค่าฝุ่น PM 2.5 ต่ำกว่า 15 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งหมายความว่าคุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีมาก ประชาชนสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศ

 

 

บทสรุป

 

จังหวัดที่มี ค่าฝุ่น PM 2.5 สูงสุด ได้แก่ พะเยา (55.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร) ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน

 

จังหวัดที่มี คุณภาพอากาศดีที่สุด ได้แก่ ศรีสะเกษ (14.2 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร)

 

แนวโน้มคุณภาพอากาศ แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้บางส่วนยังคงมีปัญหาฝุ่น PM 2.5 สูง ขณะที่ภาคอีสานและภาคตะวันออกมีอากาศดีขึ้น

 

คำแนะนำ: ประชาชนในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นสูงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งและสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นเมื่อออกนอกบ้าน

 

ติดตามข้อมูลอัปเดตคุณภาพอากาศได้จากระบบติดตามฝุ่น PM 2.5 เช็คฝุ่นของ GISDA และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน!