สืบเนื่องจากเมื่อปลายปีที่แล้วได้เกิดสถานการณ์ภัยพิบัติทางภาคเหนือและอีกหลายพื้นที่ในประเทศไทยและล่าสุด ในการ การประชุมกระทรวง การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เมื่อ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่ากระทรวง พม. ได้ตั้งศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) ขึ้น ทำให้พบเห็นปัญหาอุปสรรคหลายอย่าง และจากการที่ได้ทราบปัญหาเหล่านั้น
กระทรวงพม.ได้ประสานไปยังกรมบัญชีกลาง เพื่อหาแนวทางในการนำเงินเยียวยาของพี่น้องกลุ่มเปราะบางซึ่งจากเดิมวงเงินที่กระทรวง พม. มีอยู่จำนวน 10 ล้านบาท แต่จะสามารถใช้ได้หลังจากการที่เกิดภัยพิบัติแล้วและจะเข้าไปฟื้นฟูเข้าไปดูแลพี่น้องประชาชนกลุ่มต่างๆ จึงคิดว่าการไปช่วยเหลือในช่วงหลังจากการเกิดภัยพิบัติเป็นการทำงานที่ช้าเกินไป ทางกระทรวง พม.ต้องทำงานในเชิงรุก และต้องการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทันที
จึงเป็นเหตุให้ไปประสานเพื่อขอปรับปรุงหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 ซึ่งหลักเกณฑ์นี้มีมาตั้งแต่ปี 2563 ถึงวันนี้ผ่านไป 4 ปีกว่าแล้ว กระทรวง พม. คิดว่าถึงเวลาที่จะต้องปรับวิธีการใช้เงินจากมาหลังภัยพิบัติ ให้มาใช้ในช่วงที่เกิดภัยพิบัติ
ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มหลักเกณฑ์ขอจัดซื้อสิ่งของจำเป็น เช่น ผ้าอ้อม ผ้าอนามัย กายอุปกรณ์ เสื้อผ้า หรือแม้แต่นมกล่อง นมผง และรวมไปถึงค่าตอบแทนให้กับพี่น้องอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ที่อยู่ในแต่ละพื้นที่ที่ลงทำงานช่วยเหลือพี่น้องกลุ่มเปราะบางในช่วงที่เกิดภัยพิบัติ
ส่วนหลักเกณฑ์ที่ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับเรื่องการส่งเสริมอาชีพ หรือการเข้าไปช่วยจากภัยพิบัติผ่านไปแล้ว โดยการช่วยฟื้นฟูนั้น กระทรวง พม. จะขอเพิ่มวงเงินในบางส่วน เพราะว่าเวลาเปลี่ยนไปเงินที่กระทรวง พม. เคยได้รับวงเงินมาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เมื่อมาถึงวันนี้ดูจะน้อยเกินไป
จึงได้ขอปรับเพิ่มวงเงินบางส่วนเข้าไป ซึ่งการปรับปรุงหลักเกณฑ์เหล่านี้ เมื่อวันที่ 4 กพ.ที่ผ่านมาที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรีตนได้มอบเรื่องนี้ให้กับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่ดูแลกรมบัญชีกลาง
เพื่อขอความอนุเคราะห์ปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่ทางกระทรวง พม. ได้นำเสนอไป ทั้งนี้คาดหวังว่าจะได้รับการตอบรับในเร็ววันนี้ เพื่อให้ในอนาคตหากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือเกิดเหตุภัยพิบัติขึ้น กระทรวง พม. จะสามารถช่วยเหลือพี่น้องกลุ่มเปราะบางได้อย่างทันท่วงที