วิธีป้องกัน QR Code มิจฉาชีพ หลอกโอนเงิน ขโมยข้อมูลส่วนตัว

24 ก.ย. 2565 | 16:23 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ก.ย. 2565 | 23:31 น.
606

วิธีการป้องกัน QR Code มิจฉาชีพ หลอกโอนเงิน ขโมยข้อมูลส่วนตัว หลังพบจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสจากการใช้ QR Code ทำเว็บไซต์ปลอม หลอกให้ดาวน์โหลดมัลแวร์หรือไวรัสคอมพิวเตอร์ เช็คแนวทางป้องกันและตรวจสอบจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ปัจจุบันประเทศไทย ได้มีการใช้งาน QR Code กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในโลกยุคดิจิทัล เพราะเพียงแค่สแกนก็สามารถเข้าไปยังหน้าเว็บไซต์ที่ต้องการได้ โดยไม่ต้องพิมพ์ ที่อยู่เว็บไซต์ (URL) ยาว ๆ อีกต่อไป 

 

แต่อย่างไรก็ตามความสะดวกสบายก็ต้องแลกมากับความเสี่ยง โดยกลุ่มมิจฉาชีพมักจะฉวยเอาโอกาสจากการใช้ QR Code ในการทำเว็บไซต์ปลอม หรือหลอกให้ดาวน์โหลดมัลแวร์หรือไวรัสคอมพิวเตอร์ 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนว่า ถ้าหากประชาชนไม่ระมัดระวังหรือไม่สังเกต URL ที่ขึ้นมาตอนสแกน QR Code ก็อาจทำให้หลงเชื่อว่าเป็นเว็บไซต์จริง หรือแอปพลิเคชันจริง ทำให้หลงเชื่อกรอกข้อมูลส่วนบุคคล รหัสผ่าน หรือติดตั้งไวรัสคอมพิวเตอร์ลงในอุปกรณ์ของตนเอง ทำให้เกิดความเสียหายกับประชาชนจำนวนมากนั้น

 

ดังนั้น จึงขอประชาสัมพันธ์ถึงวิธีการป้องกันตนเองจาก QR Code มิจฉาชีพ ดังต่อไปนี้

  1. ระมัดระวังในการสแกน QR Code ไม่ว่าจะเป็น QR Code ที่ปรากฏตามป้ายโฆษณา เว็บไซต์ หรือเอกสาร ต่าง ๆ เพราะคนร้ายอาจแอบนำ QR Code ที่นำไปสู่เว็บไซต์ปลอมหรือหลอกให้ติดตั้งไวรัสคอมพิวเตอร์ 
  2. เมื่อทำการสแกน QR Code ให้สังเกต URL ที่ได้จากการสแกน QR Code ว่าเป็นเว็บไซต์ของเจ้าของ QR Code จริงหรือไม่ โดยเฉพาะเว็บไซต์เกี่ยวกับธนาคาร สถาบันการเงิน ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนกรอกรหัสผ่าน (Password) เข้าใช้งานเพราะอาจถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้ทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น ถอนเงิน หรือ โอนเงินไปบัญชีมิจฉาชีพ
  3. ควรระมัดระวังการลงชื่อเข้าใช้เว็บไซต์ต่าง ๆ ตลอดจนการติดตั้งแอปพลิเคชัน เพื่อป้องกันไม่ให้หลงเชื่อกรอกข้อมูลส่วนบุคคล หรือติดตั้งไวรัสคอมพิวเตอร์ในอุปกรณ์ของตน
  4. กรณี QR Code ที่ปรากฏในเอกสารราชการ หรือเอกสารของเอกชนต่าง ๆ หากไม่แน่ใจว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ ให้โทรศัพท์ตรวจสอบกับหน่วยงานเจ้าของเอกสารโดยตรง ก่อนที่จะสแกน QR Code

ทั้งนี้ หากประชาชนได้รับความเสียหายจากการอาชญากรรมทางไซเบอร์ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ หรือแจ้งความออนไลน์ได้ด้วยตนเองที่เว็บไซต์ https://www.thaipoliceonline.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง