วัคซีนโควิด จำเป็นต้องฉีดเข็ม 3 หรือไม่ เข็ม 4-5 ควรฉีดเมื่อไหร่ เช็คเลย

17 มิ.ย. 2565 | 04:11 น.
อัปเดตล่าสุด :17 มิ.ย. 2565 | 05:38 น.
10.1 k

วัคซีนโควิด จำเป็นต้องฉีดเข็ม 3 หรือไม่ เข็ม 4-5 ควรฉีดเมื่อไหร่ เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ หมอยงเผยข้อมูลตัวอย่างการฉีดวัคซีน ในผู้ใหญ่ไทย ที่มีการตรวจภูมิต้านทานมาโดยตลอด

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิยาลัย โพสต์ข้อความว่า 

 

โควิด-19 วัคซีน การกระตุ้นให้ภูมิต้านทานสูงขึ้น

 

จากตัวอย่างการฉีดวัคซีน ในผู้ใหญ่ไทย ที่มีการตรวจภูมิต้านทานมาโดยตลอด (ดูตามรูป)

 

เราจะเห็นว่าภูมิต้านทานจะสูงมากหลังฉีดกระตุ้นเพียง 2 สัปดาห์แล้วหลังจากนั้นก็จะค่อยๆลดลง 

 

ในรายนี้ฉีดวัคซีนมาแล้วทั้งหมดถึง 5 ครั้ง พอสรุปได้ดังนี้

 

  • การให้วัคซีน 2 เข็มแรกระดับภูมิต้านทานจะขึ้นไม่สูง ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนอะไร 

 

  • จำเป็นจะต้องให้เข็มที่ 3 เพื่อยกระดับภูมิต้านทานให้สูงขึ้น เพียงพอกับสายพันธุ์ที่เปลี่ยนไปโดยเฉพาะโอมิครอน (omicron) ใช้ระดับภูมิต้านทานที่สูงกว่าสายพันธุ์เดิมอู่ฮั่นค่อนข้างมาก 

ดังนั้นการป้องกันโรคหรือประสิทธิภาพของวัคซีนจะมีประสิทธิภาพสูงในเดือนแรกๆหลังการฉีดวัคซีน

 

และเมื่อนานเกิน 4 เดือนไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเข็มกระตุ้นที่ 3  หรือ 4  ภูมิต้านทานก็จะลดลงในระดับที่ต่ำกว่าระดับป้องกันการติดเชื้อ 

 

แต่อย่างไรก็ตามระบบความจำของร่างกายจะช่วยเสริมการตอบสนองภูมิต้านทานขึ้นอย่างรวดเร็วถ้ามีการติดเชื้อ 

 

ทำให้การติดเชื้อมีอาการน้อยลงอย่างมาก และการกำจัดเชื้อ เป็นไปได้รวดเร็วขึ้น

 

วัคซีนโควิด จำเป็นต้องฉีดเข็ม 3 หรือไม่ เข็ม 4-5 ควรฉีดเมื่อไหร่

 

คำถามมักถามเสมอว่าจะกระตุ้นเมื่อไหร่ จากภาพนี้แสดงให้เห็นว่าหลัง 4 เดือนไปแล้วระดับภูมิต้านทานจะลดลงมามาก 

 

ตามคำแนะนำจึงแนะนำการกระตุ้นหลัง 4-6 เดือน ไม่ว่าจะเป็น หลังเข็ม 3 หรือเข็ม 4 

 

ทุกคนควรได้วัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม ในกลุ่มเสี่ยงหรือที่มีโรคประจำตัว ควรได้อย่างน้อย 4 เข็ม 

บุคลากรด่านหน้าหรือผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงก็ควรได้อย่างน้อย 4 เข็ม

 

การกระตุ้นเข็ม 5  อยู่ด้วยความสมัครใจ เพราะขณะนี้มีหลายคนเริ่มถามถึงเข็ม 5 แล้ว

 

เราให้วัคซีนกันมากว่า 1 ปีแล้ว และในอนาคตการให้วัคซีน covid 19  ก็คงคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ 

 

ที่ต้องมีการกระตุ้นทุกปี โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ที่เป็นโรคแล้วอาจจะรุนแรง