ฝีดาษลิงในไทยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อหรือยัง เช็คข้อเท็จจริงได้ที่นี่

31 พ.ค. 2565 | 16:16 น.
อัปเดตล่าสุด :31 พ.ค. 2565 | 23:17 น.

ฝีดาษลิงในไทยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อหรือยัง เช็คข้อเท็จจริงได้ที่นี่มึคำตอบ หมอเฉลิมชัยเผยสรุปข้อเท้จจริง และสถานการณ์ในประเทศ

ฝีดาษลิงในไทย กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่กรมควบคุมโรค ระบุว่า พบผู้ป่วยยืนยัน 1 ราย มีประวัติเดินทางมาเปลี่ยนเครื่องในสนามบินในไทย 2 ชั่วโมงเพื่อเดินทางต่อไปประเทศออสเตรเลีย 

 

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

สรุปล่าสุด ยังไม่พบฝีดาษลิงในประเทศไทย พบแต่ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 12 ราย
จากกรณีที่มีข่าวเผยแพร่ว่า ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยฝีดาษลิงแล้ว 1 รายนั้น

 

ข้อเท็จจริงรายละเอียดเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างไร  และสรุปสถานการณ์ฝีดาษลิงของไทยเป็นอย่างไรบ้าง  มาติดตามดูกันในรายละเอียดดังนี้
 

  • เมื่อวานนี้ (30 พฤษภาคม 2565) นายแพทย์จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินฝีดาษลิง ได้แถลงข่าวรายละเอียดถึงสถานการณ์ฝีดาษลิงในประเทศไทย

 

  • ได้รับรายงานมาจากออสเตรเลียว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อฝีดาษลิงหนึ่งราย ซึ่งเดินทางมาจากประเทศในยุโรป โดยมีปลายทางอยู่ที่ออสเตรเลีย และเครื่องดังกล่าวมาแวะพักที่สนามบินสุวรรณภูมิ 2 ชั่วโมง โดยที่ผู้ติดเชื้อไม่ได้ลงจากเครื่อง

 

  • ในเที่ยวบินดังกล่าว มีลูกเรือและผู้โดยสารรวม 12 รายที่ได้ลงเครื่องในประเทศไทย ส่วนที่เหลือเดินทางต่อไปออสเตรเลีย

 

ฝีดาษลิงในไทยล่าสุดยังไม่พบผู้ป่วย

 

  • กลุ่มลูกเรือและผู้โดยสารทั้ง 12 รายนั้น  ไม่ได้สัมผัสโดยตรงกับผู้ติดเชื้อ จึงถือว่าอยู่ในกลุ่มสัมผัสเสี่ยงต่ำ และได้ติดตามอาการทั้ง 12 รายแล้ว ผ่านไป 7 วัน ยังไม่มีผู้ใดมีอาการ

 

  • จะต้องติดตามกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำดังกล่าวต่อไปจนครบ 21 วัน จึงจะถือว่าพ้นระยะการติดต่อ
  • กรณี 3 นักท่องเที่ยวจากประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งไปเที่ยวที่ภูเก็ต แล้วพบว่ามีไข้ผื่นขึ้นทั้ง 3 ราย และยังไปสัมผัสใกล้ชิดกับคนไทยอีก 2 รายรวมเป็น 5 รายนั้น ขณะนี้ผลวินิจฉัยพบว่าไม่ได้เป็นฝีดาษลิง แต่เป็นโรคเริม

 

จึงถือได้ว่าจนถึงขณะนี้ ประเทศไทยยังไม่มีผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิง
และจะติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 12 รายต่อไป จนครบ 21 วัน

 

ทุกคนจึงควรติดตามข่าวเรื่องฝีดาษลิง และศึกษาหาข้อมูลให้เข้าใจ มากเพียงพอที่จะไม่ประมาทและไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป