โอมิครอนวันนี้ หมอเฉลิมขัยชี้เล่นงานผู้ไม่ฉีดวัคซีนมากกว่าฉีดถึง 14 เท่า

17 ม.ค. 2565 | 09:33 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ม.ค. 2565 | 16:33 น.
536

โอมิครอนวันนี้ หมอเฉลิมขัยชี้เล่นงานผู้ไม่ฉีดวัคซีนมากกว่าฉีดถึง 14 เท่า แนะอย่ารีบด่วนสรุปว่าโอมิครอนไม่น่ากลัว และปล่อยให้ติดเชื้อตามธรรมชาติ

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

 

โอมิครอน (Omicron) ยังมีฤทธิ์เดช และเล่นงานคนไม่ฉีดวัคซีนมากกว่าคนที่ฉีดวัคซีนมากถึง 14 เท่าตัว

 

 

โอมิครอนเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ล่าสุด จัดอยู่ในกลุ่มน่าเป็นกังวล(VOC) ซึ่งมีอายุเพียง 2 เดือน

 

 

จึงทำให้ข้อมูลต่างๆ ทยอยออกมาให้มนุษย์ได้เรียนรู้และทำความเข้าใจเป็นลำดับ
กล่าวเฉพาะประเด็นความสามารถในการแพร่ระบาด และการดื้อต่อวัคซีน ข้อมูลออกมาค่อนข้างชัดเจนและเห็นตรงกันว่า

 

 

มีความสามารถในการแพร่ระบาดรวดเร็วกว้างขวางมาก และมีการดื้อต่อวัคซีนของทุกบริษัทและทุกเทคโนโลยี
 

ยังคงเหลือประเด็นเรื่องความสามารถในการก่ออาการที่รุนแรง จนต้องนอนโรงพยาบาล เข้าไอซียู หรือเสียชีวิต และภาระต่อระบบสาธารณสุข

 

 

ซึ่งมีทิศทางหลักประมาณว่า รุนแรงน้อยกว่า และเป็นภาระต่อสาธารณสุขน้อยกว่าเดลตา

 

 

ทำให้หลายคนรีบด่วนสรุปไปแล้วว่าโอมิครอนไม่น่ากลัว จนถึงขั้นกล่าวว่าเหมือนเป็นไข้หวัดธรรมดา

 

 

โอมิครอนเล่นงานผู้ไม่ฉีดวัคซีนมากกว่าผู้ฉีดถึง 14 เท่า

 

 

หลายคนถึงกับบอกว่าจะไม่ฉีดวัคซีนแล้ว ขอปล่อยให้ติดเชื้อตามธรรมชาติ และบางส่วนก็ไปไกลถึงขั้นว่า จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นภายในปีนี้

 

 

แต่สิ่งที่เราจะต้องไม่ลืมคือ ไวรัสนี้ใหม่มาก เพิ่งปรากฏเพียง 2 เดือน

 

 

การสรุปทิศทางต่างๆ จึงต้องทำด้วยความระมัดระวัง และค่อยเรียนรู้ รับทราบจากข้อมูลจริงไปเรื่อยๆ

 

 

ถ้าลองสมมติสูตรเลขคณิตพื้นฐาน ว่า แม้โอมิครอนจะก่อให้เกิดความรุนแรงในการนอนโรงพยาบาลน้อยลง 4 เท่า และทำให้เสียชีวิตน้อยลง

จะสรุปทันทีว่าโอมิครอนไม่น่ากลัวได้หรือไม่ ?

 

 

ด้วยความสามารถในการแพร่ระบาด โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่ฉีดวัคซีนหรือไม่มีวินัยในการป้องกันตัว

 

 

ถ้าโอมิครอนทำให้ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 10 เท่า ผลคือ จะมีผู้ที่ต้องนอนโรงพยาบาลและผู้ที่เสียชีวิตมากกว่าเดลตา 2.5 เท่า ( 10/4 = 2.5 ) ดังนี้

 

 

สมมติติดเชื้อจากเดลตา 1 ล้านคน

 

 

  • นอนรพ. 20% คือ 2 แสนคน
  • เสียชีวิต 2% คือ 2 หมื่นคน
  • แต่ติดเชื้อจากโอมิครอน
  • นอนรพ.เพียง 5% 
  • และเสียชีวิตเพียง 0.5% 
  • คือน้อยกว่าเดลต้า 4 เท่าตัว

 

 

แต่ถ้ามีคนติดเชื้อโอมิครอนมากถึง 10 เท่า
คือ 10 ล้านคน

 

 

  • จะมีผู้นอนรพ.มากถึง 5 แสนคน
  • และเสียชีวิตถึง 5 หมื่นคน

 

 

อีกประเด็นหนึ่งที่ชัดเจนสำหรับโอมิครอนก็คือ จะเล่นงานหรือก่อโรคในผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน มากกว่าคนที่ฉีดวัคซีน

 

 

โอมิครอนเล่นงานผู้ไม่ฉีดวัคซีนมากกว่าผู้ฉีดถึง 14 เท่า

 

 

โดยมีตัวเลขจากนิวยอร์กซิตี้ว่า ในช่วงที่เดลตาระบาด ผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อ จะนอนโรงพยาบาลมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีน 10 เท่า

 

 

แต่พอเป็นช่วงโอมิครอนระบาด ผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนจะต้องนอนโรงพยาบาลมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นเป็นถึง 14 เท่า

 

 

ส่วนตัวเลขอีกช่วงเวลาหนึ่ง ก็พบทำนองเดียวกันว่า ผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนต้องนอนโรงพยาบาลมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีน 8.3 เท่า และมีการติดเชื้อ มากกว่า 4 เท่า

 

 

โดยมีรายงานจากอีกแหล่งข่าวในทำนองใกล้เคียงกันว่า ผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนเทียบกับผู้ฉีดวัคซีน

 

 

  • ต้องนอนรพ.มากกว่า 6 เท่า
  • เข้าไอซียูมากกว่า 7.8 เท่า
  • และเสียชีวิตมากกว่า 3 เท่า

 

 

โดยข้อมูลดังกล่าว แม้เป็นเพียงเมืองเดียวในสหรัฐอเมริกา แต่ด้วยระบบการเก็บข้อมูลที่ดีมากและครบถ้วนสมบูรณ์ในระดับสากล

 

 

จึงทำให้บอกแนวโน้มได้ชัดเจนว่า เรายังไม่อาจฟันธงสรุปโอมิครอนในเรื่องความรุนแรงได้

 

 

กล่าวคือโอมิครอนยังคงมีฤทธิ์เดชที่เราจะต้องระมัดระวัง และโอมิครอนจะเล่นงานคนที่ไม่ฉีดวัคซีนมากกว่าคนที่ฉีดวัคซีนอย่างชัดเจน