รู้ไว้ไม่พลาด พกอาวุธปืน-ยิงปืนขึ้นฟ้าฉลองปีใหม่ ระวังโทษหนักหลายข้อหา

01 ม.ค. 2565 | 14:53 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ม.ค. 2565 | 22:03 น.
1.2 k

ตำรวจเตือนฉลองปีใหม่ ไม่ควรพกพาอาวุธปืน-ไม่ยิงปืนขึ้นฟ้า เพราะมีโทษหนักหลายข้อหา อาจถึงจำคุก 5-10 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เผยช่วง วันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2565 นี้ ขอให้ประชาชนที่เดินทางไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อพักผ่อนอยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่ทำสิ่งใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น

 

ทั้งนี้ แม้ว่าจะสนุกสนานสักเพียงใดแต่ก็ไม่ควรเลยเถิดจนกลายเป็นความคึกคะนอง การพกพาอาวุธปืนไปในสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงการยิงปืนขึ้นฟ้า เพราะการกระทำดังที่กล่าวมา มีความผิดตาม พ.ร.บ. อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว

 

เว้นแต่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็น และเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ไม่ว่ากรณีใด ห้ามมิให้พาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผย หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้น เพื่อนมัสการ การรื่นเริง การมหรสพ หรือการอื่นใด

มาตรา 72 ทวิ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 8 ทวิ วรรค 1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้นั้นฝ่าฝืนมาตรา 8 ทวิ วรรค 2 ด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 1,000 บาท ถึง 10,000 บาท

 

นอกจากนี้ กระสุนปืนที่ยิงออกจากกระบอกปืนมีโอกาสที่จะไปตกลงไปโดนหลังคาบ้าน ทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย หรือแม้กระทั่งกระสุนปืนถูกผู้อื่นจนเป็นอันตราย ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จะมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท

 

มาตรา 300 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โฆษก ตร.กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความห่วงใยประชาชน และขอให้มีความสุขกับเทศกาลปีใหม่ 2565 ไม่กระทำผิดกฎหมาย ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น และหากท่านใดพบการกระทำความผิด ขอให้แจ้งไปยังสายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง