ดีเดย์ 9 ธ.ค.ประกันรายได้ข้าว -ยาง เตรียมรับเงิน

05 ธ.ค. 2564 | 16:22 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ธ.ค. 2564 | 00:50 น.
3.9 k

อัพเดทเงินประกันรายได้ข้าว - ยาง ล่าสุด “จุรินทร์”ยืนยัน 9 ธันวาคม ธกส. เตรียมโอนเงินส่วนต่างประกันรายได้เข้าบัญชีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและยางพาราอย่างแน่นอน

วันที่ 5 ธันวาคม 2564 วันพ่อแห่งชาติ นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยความคืบหน้าการจ่ายเงินประกันรายได้ข้าว - ยาง ให้กับเกษตรกร ผู้ปลูกข้าวและยางพารา โดยระบุว่าคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไปแล้ว และขณะนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ( ธกส.) ที่เป็นต้นเงินก็สามารถดำเนินการจ่ายได้  

 

ในส่วนของประกันรายได้ข้าวนั้น ความจริงได้จ่ายไป 3 งวดแล้ว คืองวดที่1และงวดที่2และงวดที่3บางส่วนเป็นเงินประมาณ 1,200 ล้านบาท แต่งวดที่ 3บางส่วนและงวดที่ 4-7  รวมกัน 5งวด ถัดจากนี้ไปจะจ่ายได้วันที่ 9 ธันวาคมนี้ เป็นเงินประมาณ 60,000กว่าล้านบาท   ส่วนงวดที่ 8 ก็จะเป็นเงิน 3,720 ล้านบาท ที่เหลืองวดที่ 9-33 เป็นเงินจำนวน 3,193 ล้านบาท รวมเป็นเงินส่วนต่าง ทั้งหมด 87,000 ล้านบาทโดยประมาณ”
 

นายจุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนยางพารานั้นได้เข้าไปช่วยเร่งรัดว่าเมื่อเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพร้อมกันกับข้าวก็ควรจะได้จ่ายเงินส่วนต่างพร้อมกัน  และขณะนี้ได้รับแจ้งจากผู้ว่าการยาง ว่าได้ประสานกับ ธกส.ว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุด  ซึ่งได้มอบเป็นนโยบายไปว่าขอให้จ่ายวันเดียวกันกับข้าวคือวันที่ 9 ธันวาคมนี้ และมีแนวโน้มว่าจะเป็นไปได้มาก  

 

ล่าสุด ผู้ว่าฯการยางแจ้งกลับมาที่ว่าจะให้เป็นไปตามนั้น คือจะจ่ายงวดแรกวันที่ 9 ธันวาคม นี้ เช่นเดียวกับส่วนต่างประกันรายได้ข้าว โดยวันที่ 9 ธันวาคมนี้ จะจ่ายเป็นงวดที่หนึ่งและงวดที่สอง ซึ่งตกค้างมาตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน และงวดที่เหลือจะมีการทยอยจ่ายต่อไป

 

“กล่าวโดยสรุปก็คือว่า 9ธันวาคมนี้ ก็จะดีเดย์จ่ายเงินส่วนต่างทั้งข้าวและยางพารา“นายจุรินทร์ กล่าว 
 

ขณะที่นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 และมติที่ประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 เห็นชอบกรอบแนวทางการดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 (เพิ่มเติม) พร้อมอนุมัติวงเงินงบประมาณจำนวน 74,569.31 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์กว่า 4.69 ล้านครัวเรือน

 


ในส่วนของ ธ.ก.ส.ได้มีการเตรียมความพร้อม  โดยเร่งตรวจสอบข้อมูลเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรและได้รับสิทธิ์ ให้เสร็จภายในวันที่ 7 ธันวาคม 2564   และเตรียมการโอนเงินให้กับเกษตรกรแต่ละรายตามสิทธิ์ที่ได้รับในวันที่ 8 ธันวาคม 2564 ซึ่งในวันที่ 9 ธันวาคม 2564 เงินดังกล่าวจะโอนเข้าบัญชีของเกษตรกรโดยตรง 

 

ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง และจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่าน LINE Official BAAC Family กรณีที่ลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect รวมถึงสามารถเบิกถอนเงินสดผ่านตู้ ATM ของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ