โมเดอร์น่าเร่งทดสอบวัคซีนยับยั้ง "สายพันธุ์โอไมครอน"

01 ธ.ค. 2564 | 13:39 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ธ.ค. 2564 | 20:45 น.
987

โมเดอร์น่า เร่งพัฒนาวัคซีนโควิด-19 สูตรใหม่ mRNA-1273.529 ที่มีความจำเพาะเจาะจงต่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน พร้อมทดสอบ 3 สูตรแรก ยับยั้งโอไมครอนได้หรือไม่ เผยทราบผลเร็วๆ นี้

ผู้สื่อข่าวรายงาน บริษัทโมเดอร์น่าได้ประกาศความคืบหน้าเกี่ยวกับกลยุทธ์ที่ทางบริษัทโมเดอร์น่า จะใช้ในการจัดการรับมือกับไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน (B.1.1.529) อันเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลที่เพิ่งอุบัติใหม่ 

 

 

สำหรับไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนที่เพิ่งมีการค้นพบเร็วๆ นี้ พบว่าตัวไวรัสเองมีการกลายพันธุ์เช่นเดียวกับที่พบในสายพันธุ์เดลต้า ที่เชื่อว่ามีส่วนเพิ่มความสามารถในการติดต่อแพร่กระจายของเชื้อ 

นอกจากนี้ ยังพบการกลายพันธุ์เช่นเดียวกับที่พบในสายพันธุ์เบต้าและเดลต้า ที่เชื่อว่ามีส่วนส่งเสริมความสามารถในการหลบหนีภูมิคุ้มกันของตัวเชื้อ เมื่อการกลายพันธุ์ทั้ง 2 ประเภทนี้เกิดขึ้นพร้อมกัน จะทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดการเร่งของอัตราการลดลงของระดับภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ และภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากการฉีดวัคซีน 

 

ในขณะนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า วัคซีนโควิด-19 โมเดอร์น่าสูตร mRNA-1273 ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับประชากรส่วนใหญ่นั้น เป็นขนาด 50 ไมโครกรัม ซึ่งใช้กระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันที่ลดลงเท่านั้น ทางบริษัทโมเดอร์น่ากําลังดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อทดสอบความสามารถของปริมาณวัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันต่อการยับยั้งเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน และคาดว่าจะมีข้อมูลออกมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ตั้งแต่ต้นปี 2564 บริษัทโมเดอร์น่าได้พัฒนากลยุทธ์ที่ครอบคลุมเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสายพันธุ์ที่น่ากังวลชนิดใหม่ๆ ที่อาจอุบัติขึ้นมา กลยุทธ์นี้ได้แก่ แนวทางการรับมือสามระดับ กรณีหากพบว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตร mRNA-1273 ขนาด 50 ไมโครกรัม ไม่สามารถกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันในระดับที่เพียงพอต่อการยับยั้งเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนได้

 

 

กลยุทธ์ที่หนึ่ง บริษัทโมเดอร์น่าอยู่ในระหว่างการดำเนินการทดสอบประสิทธิภาพวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตร mRNA-1273 ในขนาด 100 ไมโครกรัม ซึ่งเป็นการวิจัยในกลุ่มอาสาสมัครผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี โดยในขณะนี้ทางบริษัทโมเดอร์น่าได้เสร็จสิ้นขั้นตอนการฉีดวัคซีนในอาสาสมัครผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น 306 คน เพื่อศึกษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของวัคซีนเข็มกระตุ้นขนาด 100 ไมโครกรัม นี้เรียบร้อยแล้ว 

 

อนึ่ง สำหรับวัคซีน mRNA-1273 ขนาด 100 ไมโครกรัม ที่ใช้เป็นเข็มกระตุ้น ได้มีการศึกษามาก่อนหน้านี้แล้ว โดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institute of Health, NIH) ของสหรัฐอเมริกา และพบว่ามีประสิทธิภาพในการกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันในการยับยั้งเชื้อต่อไวรัส SARS-CoV2 สายพันธุ์ต่างๆ ที่มีการแพร่ระบาดมาก่อนหน้านี้ในระดับที่สูงที่สุด ทางบริษัทโมเดอร์น่าเองกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบซีรั่มจากเลือดของอาสาสมัครผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นขนาด 100 ไมโครกรัม อย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าจะมีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อและป้องกันการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนได้หรือไม่

 

 

กลยุทธ์ประการที่สอง ทางบริษัทโมเดอร์น่ากําลังอยู่ระหว่างการศึกษาวัคซีนเข็มกระตุ้นชนิดผสมสองสูตร ที่บริษัทพัฒนาขึ้นในขั้นตอนการวิจัยทางคลินิก โดยวัคซีนสูตรผสมดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับลักษณะการกลายพันธุ์ที่มีความจำเพาะเจาะจงดังเช่นที่ปรากฏในสายพันธุ์โอไมครอน โดยวัคซีนสูตรผสมชนิดแรกคือ วัคซีน mRNA-1273.211 ที่ได้มีการรวบรวมเอาการกลายพันธุ์หลายตำแหน่งที่ในไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนที่ปรากฏอยู่ในสายพันธุ์เบต้าเช่นกัน ในขณะนี้ทางบริษัทโมเดอร์น่าได้เสร็จสิ้นขั้นตอนการฉีดวัคซีน mRNA-1273.211 ในขนาด 50 ไมโครกรัม (จำนวนอาสาสมัครที่ 300 คน) และ ขนาด 100 ไมโครกรัม (จำนวนอาสาสมัครที่ 584 คน) เรียบร้อยแล้ว 

 

 

ส่วนวัคซีนสูตรผสมชนิดที่สอง คือวัคซีน mRNA-1273.213 อันเป็นวัคซีนที่ได้รวบรวมเอาการกลายพันธุ์หลายๆตำแหน่งในไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ที่พบในสายพันธุ์เบต้า และเดลต้าเช่นเดียวกัน ทางบริษัทโมเดอร์น่าเองได้เสร็จสิ้นขั้นตอนการฉีดวัคซีนสูตรผสมที่สองนี้ในขนาด 100 ไมโครกรัม (จำนวนอาสาสมัครที่ 584 คน) เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการวางแผนที่จะทดสอบวัคซีนดังกล่าวที่ขนาด 50 ไมโครกรัม ในอาสาสมัครจำนวน 584 คน เป็นลำดับต่อไป โดยทางบริษัทจะเร่งดำเนินการทดสอบซีรั่มจากเลือดของอาสาสมัครจากโครงการวิจัยวัคซีนเข็มกระตุ้นที่เป็นสูตรผสมนี้ทั้งในส่วนที่เสร็จสิ้นแล้วและส่วนที่กำลังดำเนินการอยู่เพื่อทดสอบว่าวัคซีนสูตรผสมทั้งสองชนิดนี้จะมีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อและป้องกันการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนได้หรือไม่

 

 

กลยุทธ์ประการที่สาม ทางบริษัทโมเดอร์น่าจะรีบดำเนินการพัฒนาวัคซีนสูตรใหม่ที่มีความจำเพาะเจาะจงต่อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน (วัคซีนสูตร mRNA-1273.529) โดยด่วน ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานของบริษัทโมเดอร์น่า ที่สามารถผลิตวัคซีนสูตรใหม่ขึ้นมาเพื่อรับมือกับไวรัสกลุ่มสายพันธุ์ที่น่ากังวลที่มีการอุบัติใหม่ขึ้นมาได้ในเวลาไม่นาน สำหรับในช่วงปี 2564 ที่ผ่านมาบริษัทโมเดอร์น่าได้มีการพัฒนาวัคซีนเข็มกระตุ้นที่มีความจำเพาะต่อไวรัสทั้งสายพันธุ์เบต้าและเดลต้ามาแล้ว ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถของบริษัทโมเดอร์น่าในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนสูตรใหม่สำหรับใช้ในการทดสอบทางคลินิกให้แล้วเสร็จได้ภายในระยะเวลา 60-90 วัน

 

 

Stéphane Bancel ซีอีโอ บริษัทโมเดอร์น่า กล่าวว่า จากจุดเริ่มต้น เราเคยกล่าวมาก่อนหน้านี้ว่า การที่เราพยายามที่จะเอาชนะการระบาดครั้งใหญ่นี้ มันเป็นสิ่งจําเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องดำเนินการเชิงรุกเมื่อไวรัสมีวิวัฒนาการอยู่ตลอดเวลา การกลายพันธุ์ที่พบในไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนนี้เป็นที่น่ากังวลอย่างมาก และช่วงเวลาหลายๆวันที่ผ่านมากเราได้ดำเนินการตามกลยุทธ์ของเราอย่างรวดเร็วที่สุดเพื่อจัดการกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ 

 

ในขณะนี้ เรามีกลยุทธ์ทั้งสามประการที่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการไปพร้อมกัน อันได้แก่ การทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนสูตรมาตรฐาน mRNA-1273 สำหรับการเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นขนาด 100 ไมโครกรัม ประการที่สองเรากำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาวัคซีนสูตรผสมทั้งสองชนิดที่พัฒนาขึ้นมาและอยู่ในขั้นตอนการวิจัยทางคลินิก โดยวัคซีนดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสดังตัวอย่างที่พบในสายพันธุ์โอไมครอน เป็นต้น และคาดการณ์ว่าจะมีข้อมูลออกมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และประการที่สาม เรากําลังพัฒนาวัคซีนสูตรใหม่ mRNA-1273.529 ซึ่งจะเป็นสูตรที่มีความจำเพาะเจาะจงต่อสายพันธุ์โอไมครอน